เปิดแล้วขบวนรถไฟเที่ยวปฐมฤกษ์ส่งเสริมสินค้าเกษตรจากสถานีมาบตาพุดไปนครเฉิงตู ประเทศจีน-​รัสเซีย-​ยุโรป

ระยอง -​ รมว.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเดินขบวนรถไฟเที่ยวปฐมฤกษ์ส่งเสริมสินค้าเกษตรไปนครเฉิงตู สาธารณรัฐประชาชนจีน สหพันธรัฐรัสเซีย และสหภาพยุโรป จากสถานีรถไฟมาบตาพุด จ.ระยอง

เมื่อเวลา 12.00 น.วันนี้ (10 ธ.ค.)​ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานตัดริบบิ้นเปิดเดินขบวนรถไฟเที่ยวปฐมฤกษ์เพื่อส่งเสริมสินค้าเกษตร จากสถานีรถไฟมาบตาพุด อ.เมือง จ.ระยอง ไปนครเฉิงตู สาธารณรัฐประชาชนจีน สหพันธรัฐรัสเซีย และสหภาพยุโรป โดยมี นายประยูร อินสกุล ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ศาสตราจารย์นฤมล ภิญโญสินรัตน์ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ทำหน้าที่ผู้แทนการค้าไทย และนางวรรณภรณ์ เกตุทัด ผู้ตรวจราชการกระทรวงพาณิชย์ รวมทั้งหน่วยงานภาครัฐและเอกชนในพื้นที่ร่วมเป็นสักขีพยาน

สำหรับขบวนรถไฟเที่ยวปฐมฤกษ์นี้เป็นการส่งเสริมการค้าสินค้าเกษตรจากประเทศไทยไปนครเฉิงตู เพื่อช่วยขยายตลาดส่งออกสินค้าเกษตรและสินค้าอุปโภคบริโภคผ่านระบบการขนส่งทางราง ซึ่งเกิดจากความร่วมมือระหว่างองค์การตลาดเพื่อการเกษตร (อ.ต.ก.)​ และ GML ซึ่งดำเนินธุรกิจด้านโลจิสติกส์ครบวงจร โดยมีเป้าหมายยกระดับเศรษฐกิจของประเทศ

โดยการส่งสินค้าเกษตรผ่านระบบการขนส่งทางรถไฟไทย-จีน สอดรับกับโครงการภายใต้ยุทธศาสตร์ One Belt One Road (OBOR) หรือแถบเศรษฐกิจเส้นทางสายไหมทางบกของจีน ที่จะผลักดันการเชื่อมโยงและเส้นทางการค้าระหว่างประเทศสู่ภูมิภาคต่างๆ ทั่วโลก ซึ่งการจัดส่งสินค้าเกษตรนำร่องผ่านการขนส่งทางรางไปประเทศจีน มีทั้งข้าวหอมมะลิ ลำไยสด และลำไยอบแห้ง 


ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรี​ว่าการกระทรวงเกษตร กล่าวว่า รัฐบาลให้ความสนใจกับขบวนรถไฟสายนี้เป็นอย่างมาก และยังถือว่าเป็นขบวนรถไฟสายประวัติศาสตร์ในการนำร่องสินค้าเกษตรไปสู่นครเฉินตู ประเทศจีน เพื่อที่จะนำไปสู่กลุ่มประเทศยุโรปต่อไป 

"ถือว่าเป็นเรื่องดีที่ท่านเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ให้ความสำคัญในการหาตลาดภาคการเกษตรซึ่งถือว่าเป็นเรื่องสำคัญ โดยได้ให้นโยบายตลาดนำนวัตกรรมเสริมเพิ่มรายได้ให้พี่น้องเกษตรกร และสินค้าเกษตรที่ขนส่งในช่วงแรกจะเป็นข้าวและยางพารา ต่อไปจะมีการเพิ่มสินค้าและขยายตลาดมากกว่านี้ โดยในช่วงกลางเดือนมกราคมนี้ ผู้แทนการค้า ตลอดจนผู้บริหารกระทรวงเกษตรจะเดินทางไปประเทศจีนเพื่อลงนามในพิธีสารในการส่งสินค้าเกษตรอีกหลายตัว"

ขณะที่นโยบายของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รวมทั้งกระทรวงพาณิชย์ จะเน้นในด้านการหาตลาดกลุ่มประเทศเพื่อนบ้าน โดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในฐานะภาคการผลิต ได้มอบหมายให้ ผอ.อ.ต.ก. หาตลาดกระจายสินค้าการเกษตรเพื่อการส่งออกสินค้าผ่านระบบรางให้เพิ่มมากขึ้นด้วยเช่นกัน

"การใช้เวลาขนส่งสินค้าในระยะสั้นจะประหยัดกว่าการขนส่งทางอื่นจึงเป็นการลดต้นทุนให้ผู้ประกอบการอีกทางหนึ่ง โดยระยะเวลาการขนส่งจากมาบตาพุดไปจนถึงหนองคายในวันนี้จะใช้เวลาแค่เพียงครึ่งวันเท่านั้น และจะใช้เวลาขนส่งไปเมืองเฉิงตู อีกประมาณ 4 วัน แต่หากขนส่งด้วยระบบเรือจะใช้เวลานานกว่านั้น" รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าว