บุรีรัมย์ - สามีชาวปะคำ จ.บุรีรัมย์ กอดรูปถ่ายหน้าศพเรียกร้องให้คนขับกระบะชนภรรยาเสียชีวิตออกมาแสดงความรับผิดชอบ เผยต้องยืมเงินเพื่อนบ้านจัดงานศพกว่า 3 หมื่น สุดเศร้าลูกชาย 3 ขวบรอดชีวิตราวปาฏิหาริย์แต่ต้องกำพร้าแม่ นอนสะดุ้งร้องไห้หาแม่ทุกคืน ขณะตร.เร่งไล่กล้องวงจรปิดติดตามตัวมาดำเนินคดี
วันนี้ (8 ธ.ค.) นายสำเนาว์ เณรกูล อายุ 42 ปี ชาวตำบลโคกมะม่วง อ.ปะคำ จ.บุรีรัมย์ สามีของ น.ส.ลันนา นิลนนท์ อายุ 43 ปี ที่ถูกรถยนต์กระบะชนเสียชีวิตแล้วหลบหนี พร้อมด้วย นางประจวบ นิลนนท์ อายุ 67 ปี แม่ผู้ตาย ได้นำรูปถ่ายที่ใช้สำหรับตั้งหน้าโลงศพ ออกมาเรียกร้องขอความเป็นธรรม และเรียกร้องให้คนขับรถกระบะที่ชน น.ส.ลันนา เสียชีวิตเมื่อช่วงค่ำของวันที่ 23 พ.ย. 66 ที่ผ่านมา แล้วขับหลบหนี เหตุเกิดบนถนนสาย 224 ปะคำ-เสิงสาง บริเวณบ้านโคกโจก ต.โคกมะม่วง อ.ปะคำ ออกมาแสดงความรับผิดชอบ เพราะครอบครัวต้องไปหยิบยืมเงินเพื่อนบ้านกว่า 3 หมื่นบาท จัดงานศพและยังไม่มีเงินไปใช้หนี้ หลังเกิดเหตุจนถึงขณะนี้ผ่านไปครึ่งเดือนแล้วแต่เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่สามารถติดตามจับกุมรถที่ขับชนแล้วหนีได้
ทางครอบครัวจึงอยากฝากถึงคนขับ หากยังมีจิตสำนึกก็ควรออกมาแสดงความรับผิดชอบ ไม่เห็นแก่สามีหรือแม่ ก็ควรสงสาร ด.ช.ปนต (อ่านว่า ปะ-นด) หรือน้องเกื้อ อายุ 3 ขวบ ลูกชายของผู้ตาย ที่นั่งรถจักรยานยนต์พ่วงข้างไปกับแม่ในวันเกิดเหตุ ซึ่งน่าจะกระเด็นออกจากรถบาดเจ็บศีรษะแตกซึ่งรอดชีวิตราวปาฏิหาริย์ แต่ต้องกำพร้าแม่ และนอนสะดุ้งร้องไห้หาแม่ทุกคืน
นายสำเนาว์ สามีผู้ตาย เล่าว่า วันเกิดเหตุเป็นช่วงเวลาประมาณ 18.30 น. วันที่ 23 พ.ย. 66 ภรรยาไปรับลูกชาย 3 ขวบที่บ้านแม่เพื่อจะกลับมาบ้านตนเอง เพราะตอนนั้นตนเกี่ยวข้าวอยู่จึงไม่ได้ไปด้วย กระทั่งมีคนโทรศัพท์มาบอกว่าภรรยาและลูกถูกรถชน จึงรีบเดินทางไปที่เกิดเหตุแต่กู้ภัยได้นำภรรยาและลูกส่ง รพ.แล้ว จึงตามไปที่ รพ. ซึ่งลูกชายบาดเจ็บที่ศีรษะเย็บประมาณ 4 เข็มก็ร้องไห้ตลอดเวลา แต่ภรรยาอาการสาหัสถูกส่งไปรักษาต่อที่ รพ.บุรีรัมย์ หมอพยายามปั๊มหัวใจช่วยเหลือเต็มที่แต่สุดท้ายไม่รอดเสียชีวิต จึงได้นำร่างภรรยากลับมาบำเพ็ญกุศลที่วัด และฌาปนกิจไปเมื่อวันที่ 26 พ.ย.
จากอุบัติเหตุดังกล่าวที่ทำให้ต้องสูญเสียภรรยาก็ยังทำใจไม่ได้ และผ่านมาครึ่งเดือนแล้วก็ยังจับคนขับรถกระบะที่ชนแล้วหนีไม่ได้ ตอนนี้สงสารลูกชายมากเพราะนอนสะดุ้งร้องไห้หาแม่เกือบทุกคืน จึงได้ออกมาร้องเรียนและอยากฝากถึงคนขับรถกระบะที่ชนแล้วหนี หากยังมีจิตสำนึกก็ควรจะกลับมาแสดงความรับผิดชอบบ้าง อย่างน้อยช่วยเหลือค่าจัดงานศพก็ยังดี
ด้าน นางประจวบ แม่ผู้ตาย บอกว่า ช่วงที่เกิดอุบัติเหตุเป็นฤดูเกี่ยวข้าว ลูกสาวจึงพาหลานมาฝากให้แม่ช่วยเลี้ยง และวันเกิดเหตุลูกสาวก็ขี่จักรยานยนต์พ่วงข้างมารับหลาน พอกินข้าวเย็นเสร็จก็พากันขี่ จยย.พ่วงข้างออกไปเพื่อจะกลับบ้าน ไม่นานก็มีคนมาบอกว่าลูกชายกับหลานโดนรถชน ก็ตกใจมากตามไปดูที่ รพ.หมอก็บอกให้ทำใจเพราะลูกสาวอาการสาหัส ซึ่งหมอปั๊มหัวใจช่วยเต็มที่แต่สุดท้ายลูกเสียชีวิต
จนถึงขณะนี้เหตุการณ์ผ่านไปครึ่งเดือนแล้วยังจับคนขับที่ชนลูกตายแล้วหนีไม่ได้ ทั้งที่วงจรปิดจับภาพกระบะหลังชนเสร็จ และมีพลเมืองดีที่เอาภาพกล้องหน้ารถช่วงที่ชนมาให้ แต่เจ้าหน้าที่บอกว่ามืดไม่เห็นป้ายทะเบียนก็ค่อนข้างยาก กลัวลูกจะตายฟรี อยากให้คนขับสงสารครอบครัวบ้างเพราะต้องไปหยิบยืมเงินเพื่อนบ้านกว่า 3 หมื่นมาจัดงานศพ ตอนนี้ยังไม่มีเงินไปใช้หนี้เขาเลย
จากการตรวจสอบจุดเกิดเหตุ พบฝาครอบไฟเลี้ยวด้านซ้ายรถกระบะตกอยู่ เจ้าหน้าที่ได้เก็บไว้เป็นหลักฐาน ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ปะคำ ได้มีการแชร์ภาพและข้อมูลให้พลเมืองดี ช่วยแจ้งเบาะแสของรถกระบะที่ชนแล้วหนี ซึ่งจากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดใกล้จุดเกิดเหตุ เบื้องต้นพบเป็นรถกระบะยี่ห้อ Toyota รุ่น Prerunner สีดำ ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน ขับหลบหนีไปทางอำเภอเสิงสาง จ.นครราชสีมา อยู่ระหว่างไล่กล้องวงจรปิดเพื่อติดตามรถคันดังกล่าวมาดำเนินคดี