ลงทะเบียนแก้หนี้นอกระบบโคราชเงียบเหงา ส่วนใหญ่ลงผ่านแอปฯ ขณะเจ้าหนี้ยังไม่โผล่หัว

ศูนย์ข่าวนครราชสีมา- ลงทะเบียนแก้ปัญหาหนี้นอกระบบโคราชเงียบเหงา ตั้งแต่เช้ามีผู้มาลงทะเบียนหน้าที่ว่าการอำเภอเมืองเพียง 2 ราย ลูกหนี้ส่วนใหญ่เลือกลงทะเบียนผ่านแอพ Thai D แล้ว 60 ราย มูลหนี้เกือบ 2 ล้าน ขณะเจ้าหนี้ยังไม่โผล่แม้แต่รายเดียว


วันนี้ (1 ธ.ค.) ที่บริเวณหน้าที่ว่าการอำเภอเมืองนครราชสีมา ได้มีการตั้งโต๊ะเพื่อรับลงทะเบียนแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ ตามนนโยบายของรัฐบาล ซึ่งวันนี้ถือว่าเป็นวันแรก บรรยากาศค่อนข้างเงียบเหงา โดยตั้งแต่เช้ามีลูกหนี้นอกระบบวอร์คอินมาลงทะเบียน 2 ราย ขณะที่ลูกหนี้ส่วนใหญ่เลือกที่จะลงทะเบียนผ่านระบบแอปลิเคชัน ThaiD ซึ่งช่วงเช้านี้พบว่ามีผู้ลงทะเบียนผ่านแอพลิเคชั่น ThaiD แล้วประมาณ 60 ราย


นายณฐพัชร์ พุทซา ปลัดอำเภอเมืองนครราชสีมา กล่าวว่า วันนี้เป็นการเปิดลงทะเบียนแก้ปัญหาหนี้นอกระบบเป็นวันแรก ซึ่งเมื่อเช้ามีมาลงทะเบียนออนไลน์ไปแล้ว ประมาณ 60 ราย ยอดหนี้เกือบ 2 ล้านบาท ส่วนการวอร์คอินเข้ามาลงทะเบียนที่หน้าที่ว่าการอำเภอเมืองนครราชสีมา ตอนนี้เป็นรายที่ 2 แล้ว ซึ่งผู้ที่มาลงทะเบียนทั้งหมด เป็นลูกหนี้ ส่วนเจ้าหนี้ยังไม่มีมาลงทะเบียนแม้แต่รายเดียว รวบรวมข้อมูลไปถึงสิ้นเดือนกุมภาพันธ์ 2567 แล้วจะเริ่มแก้ไขปัญหาให้แล้วเสร็จภายในสิ้นเดือนกันยายน 2567

ทั้งนี้ขอเชิญชวนลูกหนี้ และเจ้าหนี้นอกระบบ มาลงทะเบียนเพื่อแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบตามนโยบายรัฐบาล โดยสามารถลงทะเบียนได้ 3 ช่องทาง ได้แก่ 1.ลงทะเบียนผ่านแอพลิเคชั่น ผ่านระบบ ThaiD 2.วอร์คอินมาลงทะเบียนที่ศูนย์ดำรงธรรม หน้าที่ว่าการอำเภอ และ 3.สายด่วนศูนย์ดำรงธรรม 1567 ตลอด 24 ชั่วโมง


ทั้งนี้ขอเชิญชวนลูกหนี้ และเจ้าหนี้นอกระบบ มาลงทะเบียนเพื่อแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบตามนโยบายรัฐบาล โดยสามารถลงทะเบียนได้ 3 ช่องทาง ได้แก่ 1.ลงทะเบียนผ่านแอพลิเคชั่น ผ่านระบบ ThaiD 2.วอร์คอินมาลงทะเบียนที่ศูนย์ดำรงธรรม หน้าที่ว่าการอำเภอ และ 3.สายด่วนศูนย์ดำรงธรรม 1567 ตลอด 24 ชั่วโมง

ด้านนางแก้ว (นามสมมติ) อายุ 49 ปี ลูกหนี้นอกระบบที่วอร์คอินมาลงทะเบียนหน้าที่ว่าการอำเภอเมืองนครราชสีมา กล่าวว่า มีอาชีพเป็นแม่บ้านอยู่ในปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง ได้เงินเดือนประมาณ 9,000 บาท ในช่วงวิกฤติโควิด -19 ระบาด เมื่อ 3 ปีที่แล้ว ทำให้ต้องหยุดงานไปหลายเดือน ดังนั้นจึงไม่มีเงินมาจับจ่ายใช้สอยในครอบครัว จึงเลือกที่จะไปกู้หนี้นอกระบบมา จำนวน 40,000 บาท โดยจ่ายดอกเบี้ยร้อยละ 10 ต่อเดือน แต่ช่วง 3 ปีที่ผ่านมา มีเงินจ่ายเฉพาะดอกเบี้ย เดือนละ 4,000 บาท ดังนั้นจึงทำให้เงินต้นยังอยู่ครบ เนื่องจากไม่มีเงินก้อนมาปิดหนี้จึงตัดสินใจมาลงทะเบียนแก้ปัญหาหนี้นอกระบบในวันนี้ ซึ่งตนเองอยากให้รัฐบาลช่วยให้เข้าถึงระบบธนาคารที่จะปล่อยสินเชื่อให้กลุ่มลูกหนี้นอกระบบได้ไปกู้เพื่อไม่ให้กลายเป็นปัญหาเรื้อรังเช่นนี้อีก