เพชรบุรี - จับชายคลุ้มคลั่งหักเศียรพระพุทธรูปปูนปั้นอุโบสถ วัดไผ่ล้อม จ.เพชรบุรี ซึ่งเป็นวัดร้างเก่าแก่สมัยอยุธยา กรมศิลปากรขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถาน
วันนี้ (21 พ.ย.) ได้รับแจ้งจากนายกฤษดากร อินกงลาศ ช่างเมืองเพชรบุรี ประธานอาสาสมัครท้องถิ่นในการดูแลรักษามรดกทางศิลปวัฒนธรรม (อส.มศ.) จังหวัดเพชรบุรี ว่า ได้รับจากแจ้งสมาชิก อส.มศ.เพชรบุรี มีผู้ชายคลุ้มคลั่งทำการทุบเศียรพระพุทธรูปองค์รองประธานภายในอุโบสถวัดไผ่ล้อม ซึ่งเป็นวัดร้างเก่าแก่สมัยอยุธยา กรมศิลปากรขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถาน ตั้งอยู่ถนนพระทรง ติดกับเรือนจำกลางเพชรบุรี อ.เมือง จ.เพชรบุรี ทำให้เศียรพระพุทธรูปแตกหักตกหล่นบนโต๊ะหินอ่อน
จึงได้ประสานงาน น.ส.ศาริสา จินดาวงศ์ ผู้อำนวยการสำนักศิลปากรที่ 1 ราชบุรี กรมศิลปากร น.ส.คนึง ไข่ลือนาม วัฒนธรรมจังหวัดเพชรบุรี น.ส.ปราจิน เครือจันทร์ ผู้อำนวยการพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนครคีรี ให้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าร่วมตรวจสอบ
เบื้องต้น ทางชาวบ้านได้โทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองเพชรบุรี ดำเนินการจับกุมตัวไปดำเนินคดี ทราบชื่อผู้ก่อเหตุคือ นายเสถียร ตรีสุทธิวงศ์ อายุ 49 ปี เป็นบุคคลไร้บ้าน มาอยู่อาศัยภายในอุโบสถวัดไผ่ล้อม (วัดร้าง) โดยเจ้าตัวยอมรับกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าเป็นคนทุบทำลายเศียรพระพุทธรูป
น.ส.ปิติพร ทรัพย์ดนตรี ประธานชุมชนวิหารใหญ่-ไตรโลก กล่าวว่า เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา นายเสถียร เป็นชายที่เคยเช่าบ้านอาศัยอยู่ในชุมชนนี้มาก่อน ต่อมาพ่อแม่เสียชีวิต จึงไม่มีบ้านอยู่อาศัย ประกอบกับไม่มีงานทำ จึงเข้ามาอาศัยอยู่ภายในโบสถ์วัดไผ่ล้อมเป็นเวลาประมาณ 4 เดือน ก่อนเกิดเหตุนายเสถียร ได้คลุ้มคลั่งส่งเสียงดังโวยวาย และได้ยินเสียงดังโครมคราม เหมือนสิ่งของขนาดใหญ่กระแทกตกลงกับพื้น แต่ไม่มีใครกล้าออกมาดู จนกระทั่งรุ่งเช้าพบว่า เศียรพระพุทธรูปปูนปั้นองค์ด้านหน้าองค์พระประธาน หน้าตักประมาณ 40 นิ้ว หักเสียหายตกลงมาวางบนพื้นโต๊ะหินหน้าด้านหน้าองค์พระพุทธรูป พระเกศมาลาหัก องค์พระพุทธรูปมีร่องแตกร้าวเสียหาย จึงได้โทรศัพท์ไปแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองเพชรบุรี เข้ามาจับกุมตัวไปดำเนินคดีที่โรงพัก โดยนายเสถียร ยอมรับกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าเป็นผู้ก่อเหตุดังกล่าว
ด้านนายกฤษดากร อินกงลาศ ประธาน อส.มศ.เพชรบุรี กล่าวว่า วัดไผ่ล้อมเป็นวัดร้าง ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนกับทางกรมศิลปากร ที่ผ่านมา ได้รับงบประมาณจากทางจังหวัดเพชรบุรี ในการดำเนินการก่อสร้างหลังคาคลุมอุโบสถ และชาวชุมชนได้รวบรวมเงินบริจาคในการจัดสร้างตาข่ายลวดติดเพดานโบสถ์เพื่อป้องกันนกพิราบถ่ายมูลสัตว์ทำให้องค์พระพุทธรูป และงานปูนปั้นประดับโบสถ์ได้รับความเสียหาย
จากเหตุการณ์นี้แสดงให้เห็นว่าโบราณสถานบางแห่งยังมีความสุ่มเสี่ยงที่จะได้รับความเสียหายจากการกระทำของมนุษย์ สัตว์ หรือเหตุสุดวิสัย ยิ่งถ้าพื้นที่ใดไม่ได้รับความดูแลใส่ใจจากท้องถิ่น แม้ว่าชุมชนแห่งหนึ่งจะดำเนินการดูแลรักษาโบราณสถานตามบทบาทหน้าที่ของภาคประชาชนที่สามารถทำได้ แต่เนื่องจากสภาพพื้นที่วัดไผ่ล้อม ซึ่งเป็นวัดร้าง ไม่มีพระสงฆ์จำพรรษา ไม่มีรั้วรอบขอบชิด ไม่มีคนเฝ้าดูแล ทำให้บุคคลภายนอกเข้ามาอยู่อาศัย และก่อเหตุสร้างความเสียหาย เรื่องนี้ต้องมีการประชุมหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อหาทางในการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ลักษณะเช่นนี้อีก
เบื้องต้น ทางนักวิชาการ และเจ้าหน้าที่จากพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนครคีรี ได้ดำเนินการสำรวจสภาพความเสียหาย พร้อมทั้งนำเศียรพระพุทธรูป ชิ้นส่วนที่แตกชำรุด ไปเก็บรักษาไว้ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนครคีรี เพื่อรอการบูรณะซ่อมแซม ส่วนผู้ก่อเหตุขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวส่งสถาบันกัลยาณ์ราชนครินทร์ เพื่อบำบัดรักษาและฟื้นฟูสมรรถภาพผู้มีปัญหานิติจิตเวชต่อไป