xs
xsm
sm
md
lg

วัดเก่าแก่ใน อ.ขลุง จ.จันทบุรี พร้อมจัดงานลอยกระทงรอบโบสถ์อายุกว่า 400 ปี กราบไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



จันทบุรี - วัดเก่าแก่ 2 แห่งใน อ.ขลุง จ.จันทบุรี เตรียมสถานที่จัดงานประเพณีลอยกระทง 2566 โดยที่วัดเกวียนหัก ชูไฮไลต์ลอยกระทงรอบโบสถ์อายุกว่า 400 ปี ส่วนที่วัดตะปอนใหญ่ ประดับไฟบนสะพาน เปิดพระอุโบสถให้ประชาชนกราบไหว้พระศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง

วันนี้ (20 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจากชาวบ้านในพื้นที่ อ.ขลุง จ.จันทบุรี ว่าประเพณีลอยกระทงในปีนี้ วัดใหญ่ 2 แห่งในพื้นที่ได้จัดเตรียมสถานที่กันอย่างคึกคักเพื่อเปิดให้ประชาชน และนักท่องเที่ยวได้ร่วมสืบสานประเพณีลอยกระทงท่ามกลางสภาพอากาศที่เย็นสบาย

โดยเริ่มจากวัดเกวียนหัก หรือชื่อเดิม “วัดช่องลม” ซึ่งตั้งอยู่บนถนนขลุง-พลิ้ว ต.เกวียนหัก อ.ขลุง จ.จันทบุรี วัดเก่าแก่ที่มีอายุมากถึง 436 ปี ที่ได้เร่งทำการตกแต่งสถานที่และประดับไฟอย่างสวยงามเพื่อเตรียมรับประชาชนและนักท่องเที่ยวที่จะเข้าร่วมงานประเพณีลอยกระทง ซึ่งทางวัดจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 25-27 พ.ย.นี้

ไฮไลต์สำคัญอยู่ที่การจัดให้ลอยกระทงรอบพระอุโบสถ ที่ประดิษฐานพระพุทธรูปปางมารวิชัย พระพุทธรูปยืนปางประทานอภัยทรงเครื่อง และพระอัครสาวก เนื่องจากวัดเกวียนหัก ไม่มีลำคลองไหลผ่าน จึงต้องใช้ผ้าใบกั้นรอบโบสถ์เพื่อให้เป็นแหล่งกักเก็บน้ำที่ประดับประดาด้วยไฟสีสันต่างๆ อย่างสวยงาม

เพื่อให้ประชาชน และนักท่องเที่ยวได้ร่วมกันอนุรักษ์ประเพณีขอขมาพระเเม่คงคา ในวันเพ็ญเดือน 12 และร่วมกันสืบสานขนบธรรมเนียมประเพณีลอยกระทงให้คงอยู่สืบไป


วัดตะปอนใหญ่ สมัยอยุธยาตอนปลาย เปิดพระอุโบสถให้กราบไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง

ส่วนชาวบ้านชุมชนตะปอนใหญ่ ได้ร่วมกับวัดตะปอนใหญ่ วัดเก่าแก่ที่สร้างในสมัยอยุธยาตอนปลาย พ.ศ. 2290 เดิมชื่อ “วัดโพธิธาราม” เนื่องจากมีต้นโพธิ์ขนาดใหญ่ที่ขึ้นอยู่ริมคลองตะปอนใหญ่ และปกคลุมเจดีย์เก่าซึ่งตั้งอยู่ใน ต.ตะปอน อ. ขลุง ได้มีการจัดเตรียมสถานที่เพื่อจัดงานประเพณีลอยกระทงเช่นกัน

โดยวัดแห่งนี้จะจัดงานประเพณีลอยกระทง ระหว่างวันที่ 26-27 พ.ย.นี้ และยังได้มีประดับโคมไฟบนถนนให้ประชาชนที่มาลอยกระทง ได้ถ่ายภาพบนสะพานโพธิธาราม และกราบไหว้ขอพรพระพุทธเมตตา พระพุทธรูปปูนปั้นลงรักปิดทอง ทรงประทับนั่งในอิริยาบถแบบวีราสนะแสดงภูมิปรรศมุทราที่สร้างในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์อีกด้วย










กำลังโหลดความคิดเห็น