xs
xsm
sm
md
lg

อบจ.ราชบุรีชวนเที่ยวงานยลถ้ำค้างคาวร้อยล้าน ประวัติศาสตร์เขาช่องพราน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ราชบุรี - อบจ.ราชบุรี จัดแถลงข่าว “ท่องเที่ยวชุมชน ยลถ้ำค้างคาวร้อยล้าน ตระการตาแสงเสียง ประวัติศาสตร์เขาช่องพราน LIGHT & SOUND” เพื่อย้อนรอยประวัติศาสตร์สมัยสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช และยังช่วยส่งเสริมและกระตุ้นเศรษฐกิจด้านการท่องเที่ยว 
              
วันนี้ (15 พ.ย.) นายวิวัฒน์ นิติกาญจนา นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดราชบุรี เป็นประธานแถลงข่าวการจัดโครงการส่งเสริมการท่องเที่ยวของ อบจ. กิจกรรม "ท่องเที่ยวชุมชน ยลถ้ำค้างคาวร้อยล้าน ตระการตาแสงเสียง ประวัติศาสตร์เขาช่องพราน LIGHT & SOUND ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567" นางกาญจน์กุระ ฮัยสคาเนน ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดราชบุรี ดร.นภสร โศรกศรี วัฒนธรรมจังหวัด นายมงคล นาคเนียม นายกเทศมนตรีตำบลเขาขวาง พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันจัดงานดังกล่าวขึ้น ระหว่างวันที่ 24-27 พ.ย. วัดเขาช่องพราน อ.โพธาราม จ.ราชบุรี 

โดย อบจ.ราชบุรี ได้เห็นความสำคัญวัดเขาช่องพรานซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญแห่งหนึ่งของประเทศ  มีฝูงค้างคาวนับร้อยล้านตัวบินออกจากถ้ำช่วงเวลาเย็น ถือเป็นอันซีนแห่งหนึ่งที่นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศนิยมมาท่องเที่ยวชมทัศนียภาพที่สวยงามยามเย็น และยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของจังหวัด ที่ได้รับการคัดเลือกให้เป็นส่วนหนึ่งในข้อความที่ว่า “เพลินค้างคาวร้อยล้าน” ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของคำขวัญประจำจังหวัดราชบุรีด้วย 
             
กำหนดเปิดงานช่วงเย็นวันที่ 24 พฤศจิกายน ตั้งแต่เวลา 17.09-18.00 น. เป็นพิธีบวงสรวงสิ่งศักดิ์สิทธิ์หน้าวิหารหลวงพ่อร้อยล้าน การแสดงศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่น พิธีเปิดงาน การแสดงนาฏมวยไทย ชุด เชิดกระบวนไทย การแสดงละครประกอบแสงสีเสียงอิงประวัติศาสตร์ เรื่อง “ตากสินวีรกษัตราเกริกฟ้า ตำนานศึกบางแก้วก้องแผ่นดิน” นำแสดงโดยนักแสดงจากช่อง 7 สี ร่วมสนับสนุนสินค้าชุมชน และการออกร้านจำหน่ายอาหารพื้นบ้าน สินค้าพื้นเมืองอีกมากมาย 
          
นายวิวัฒน์ นิติกาญจนา นายก อบจ.ราชบุรี เปิดเผยว่า เขาช่องพรานถือเป็นหนึ่งในสถานที่ที่น่าสนใจ เนื่องจากมีประวัติศาสตร์ความเป็นมายาวนาน ตั้งแต่สมัยสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช เป็นสถานที่ที่มีจุดเด่น ซึ่งมีค้างคาวนับล้านตัวอาศัยอยู่ภายในถ้ำ ซึ่งเคยเป็นแหล่งท่องเที่ยวระดับประเทศ สำหรับการจัดงานครั้งนี้ถือเป็นครั้งที่ 2 ที่ได้มีการจัดงานดังกล่าวขึ้น เพื่อเป็นการสร้างประสบการณ์ที่มีค่าแก่นักท่องเที่ยว ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ เพิ่มรายได้แก่ชุมชน และเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวเขาช่องพรานให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น 
              
นางกาญจน์กุระ ฮัยสคาเนน ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดราชบุรี กล่าวว่า เขาช่องพรานมีถ้ำเป็นแหล่งอาศัยของค้างคาวจำนวนมาก ประมาณด้วยตานับร้อยล้านตัวที่โบยบินออกจากถ้ำช่วงเวลาเย็น ออกหากินลักษณะเป็นสายขึ้นอยู่บนท้องฟ้า ถือเป็นอันซีนของเมืองราชบุรี ที่นักท่องเที่ยวนิยมแวะมาพักผ่อนชมธรรมชาติช่วงเย็น กลายเป็นจุดเด่นของชุมชน และจังหวัด เป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศ

เขาช่องพรานมีลักษณะเป็นถ้ำที่เกิดจากหินปูน ลึกลงไปจนถึงใจกลางถ้ำพบรอยพระพุทธบาท  วัดเขาช่องพรานยังมีถ้ำพระนอน ภายในถ้ำมีพระพุทธรูปมากกว่า 100 องค์ ที่สำคัญคือ พระพุทธรูปปางไสยาสน์  นักท่องเที่ยวที่มาท่องเที่ยวสามารถเดินขึ้นสู่บนยอดเขาช่องพรานเพื่อนมัสการพระบรมธาตุวรวิสุทเจดีย์ และด้านบนยอดเขานักท่องเที่ยวยังสามารถชมวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม และชมพระอาทิตย์ตกได้ ลานด้านล่างยังสามารถชมค้างคาวหลายร้อยล้านตัวที่พุ่งออกมาเป็นสายจากปากถ้ำเพื่อออกไปหากินทุกวันเวลาประมาณ 18.00 น.  และจะกลับเข้าถ้ำทุกวันประมาณ 05.00 น. นับเป็นสิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาติที่หาชมได้ยาก แต่ช่วงสถานการณ์โควิด-19 ทำให้อำเภอโพธาราม มีนักท่องเที่ยวลดน้อยลง ทำให้ประชาชน ผู้ประกอบการต่างๆ ได้รับผลกระทบ ทำให้ทาง อบจ.ราชบุรี เห็นความสำคัญจึงได้จัดโครงการดังกล่าวขึ้น เพื่อหวังช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวในพื้นที่ให้กลับมาคึกคักอีกครั้ง 
             
ดร.นภสร โศรกศรี วัฒนธรรมจ.ราชบุรี กล่าวว่า วัดเขาช่องพรานเป็นเส้นทางสมรภูมิรบศึกบางแก้ว ในแผ่นดินกรุงธนบุรี สมัยสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ทรงทำสงครามกับพม่าสิบครั้ง เมื่อปี พ.ศ.2317 เป็นการรบกับพม่าครั้งที่ 8  ที่บางแก้ว ซึ่งเป็นหมู่บ้านที่ชาวบ้านเรียกว่าบ้านนางแก้ว อยู่ในเขต อ.โพธาราม เป็นการรบครั้งประวัติศาสตร์แห่งชาติไทยที่มีการจารึกไว้ในพงศาวดารในฐานะหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชทรงดำเนินกลยุทธ์และยุทธวิธีต่างๆ ผิดกับการรบทั้ง 9 ครั้งที่ปรากฏในประวัติศาสตร์  กล่าวคือ จะกำหนดวัน เวลาที่เอาชนะฝ่ายพม่าได้ แต่พระองค์ไม่ทรงกระทำ ทรงต้องการให้งุยอคงหวุ่น แม่ทัพใหญ่พม่ายอมแพ้อย่างไม่มีเงื่อนไข พระองค์ทรงต้องการให้แม่ทัพใหญ่พม่าออกจากค่ายในฐานะผู้แพ้มาถวายบังคมต่อหน้าพระพักตร์ 

จากประวัติศาสตร์ที่สำคัญทำให้ชาวราชบุรีต่างสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ จึงได้พลิกฟื้นประวัติศาสตร์เส้นทางสมรถภูมิรบ ศึกบางแก้ว ให้แก่นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศ ตลอดจนนักเรียน นักศึกษา ประชาชนได้มีโอกาสเข้ามาศึกษาเรียนรู้เส้นทางสมรภูมิรบ ของสมเด็จพระเจ้าตากสิน ประกอบด้วย บ้านโคกกระต่าย บ้านนางแก้ว บ้านเขาชะงุ้ม บ้านเตาปูน ค่ายศึกโคกกระต่าย ชมค้างคาวร้อยล้านที่เขาช่องพราน 










กำลังโหลดความคิดเห็น