ระยอง - ประธาน ทสม.ระยอง จี้กองทัพเรือ ตรวจสอบคนในสังกัดอ้างทหารยศนายพล รุกพื้นที่ป่าสงวนเขาห้วยมะหาด อ.บ้านฉาง ต้นน้ำสำคัญอ่างเก็บน้ำสวนป่าสมเด็จย่า ไม่เพียงเท่านั้นยังมีพนักงานบริษัทชื่อดังเอี่ยวด้วย พบพื้นที่ถูกบุกรุกแล้วกว่า 17,000 ไร่
วันนี้ (7 พ.ย.) นายสุรินทร์ สินรัตน์ ประธานเครือข่ายอาสาสมัครพิทักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมหมู่บ้าน (ทสม.) จ.ระยอง ได้นำชาวบ้านใน อ.บ้านฉาง เดินทางขึ้นเขาห้วยมะหาด ซึ่งอยู่ในพื้นที่ ม.7 ต.บ้านฉาง อ.บ้านฉาง จ.ระยอง เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงหลังได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านในพื้นที่ว่า มีนายทุนบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติเขาห้วยมะหาด เขากกตะแบก และเขานังหย่อง พื้นที่รวมกว่า 17,000 ไร่
และยังพบว่าพื้นที่บางส่วนซึ่งเป็นแหล่งต้นน้ำสำคัญของอ่างเก็บน้ำสวนป่าสมเด็จย่า ถูกบุกรุกต่อเนื่อง โดยกลุ่มนายทุนอ้างว่ามีใบ ภบท.5 ซึ่งมีการแบ่งขายพื้นที่เป็นล็อกเพื่อหาผลประโยชน์
โดยจากการตรวจสอบพบว่า ตั้งแต่ทางขึ้นเขาห้วยมะหาด มีการเทคอนกรีตเพื่อทำทางขึ้น ส่วนพื้นที่ป่าเต็มไปด้วยหินขนาดใหญ่เรียงราย ส่วนต้นไม้บางส่วนถูก “กานรอบต้น” เพื่อให้ต้นไม้ยืนต้นตาย ขณะที่บางจุดมีการทำรั้วลวดหนามกั้นพื้นที่ และใช้รถแบ็กโฮขึ้นไปปรับพื้นที่สร้างบ้าน ส่วนบางจุดพบว่ามีการจุดไฟเผาป่า
นายสุรินทร์ ประธาน ทสม.ระยอง บอกว่า การกระทำของนายทุนกลุ่มดังกล่าวถือเป็นการกระทำที่สวนทางกับนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการเพิ่มพื้นที่สีเขียวเพื่อดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ลดปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และยังมีแนวทางเพิ่มพื้นที่ป่าไม้ให้ได้อีก 45% ของพื้นที่ป่าทั้งประเทศ ขณะที่สภาพพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติเขาห้วยมะหาด เขากกตะแบก และเขานังหย่อง ซึ่งเป็นพื้นที่ของกรมป่าไม้
และพื้นที่ป่าบางส่วนนิคมอุตสาหกรรมสร้างตนเองได้ขอนำไปจัดสรรให้ผู้ยากไร้ได้อยู่อาศัย และเนื้อที่อีกกว่า 2 พันไร่ กองทัพเรือ ได้ขอใช้ประโยชน์ด้านความมั่นคง
“เพราะฉะนั้นพื้นที่ป่าดังกล่าวส่วนใหญ่จึงต้องเป็นเอกสาร ภบท.5 ซึ่งนิคมสร้างตนเอง ได้ออกเป็นหนังสือ นค.1 นค.2 และ นค.3 ให้ผู้ยากไร้ที่ครอบครองในระยะเวลา 5 ปีก่อนจึงจะนำไปขอออกโฉนดได้ และไม่ให้มีการซื้อขายเปลี่ยนมือ ส่วนใบ ภบท.5 เป็นเพียงเอกสารการเสียภาษีบำรุงท้องที่สำหรับทำเกษตรกรรมและที่อยู่อาศัย ที่ไม่สามารถซื้อขายเปลี่ยนมือได้เช่นกัน”
ดังนั้น จึงอยากเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งในระดับอำเภอ จังหวัด และระดับกระทรวงจากส่วนกลางลงพื้นที่มาสำรวจรังวัดพื้นที่เพื่อปักปันแนวเขตให้ชัดเจนเพื่อกันพื้นที่ป่า และพื้นที่ประชาชนออกจากกันให้ชัดเจน
นายสุรินทร์ ยังกล่าวอีกว่า สำหรับผู้ที่ไม่ได้ทำเกษตรกรรมหรืออยู่อาศัยแล้วต้องคืนพื้นที่ให้รัฐ ไม่ใช่นำไปขายต่อให้กลุ่มนายทุน เพราะพื้นที่ป่าแห่งนี้เป็นพื้นที่ป่าต้นน้ำให้อ่างเก็บน้ำสวนป่าสมเด็จย่า ซึ่งในปี 2529 ที่ผ่านมา สมเด็จพระเทพฯ ได้ทรงปลูกต้นประดู่ ของกรมป่าไม้ไว้ แต่พบว่ามีต้นไม้บางส่วนถูก ”กานรอบต้น” เพื่อให้ยืนต้นตาย
“ทราบว่ามีพนักงานบริษัทชื่อดังแห่งหนึ่ง และคนมีสีในกองทัพเรือบางคนแอบอ้างผู้ใหญ่ยศนายพล เพื่อเข้ามาครอบครองเป็นเจ้าของพื้นที่ ซึ่งในเรื่องนี้อยากให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบด่วน” ประธาน ทสม. ระยอง กล่าว