ระยอง - นายกรัฐมนตรีติดตามระบบการบริหารจัดการน้ำในอ่างเก็บน้ำหนองปลาไหล จ.ระยอง ย้ำรัฐบาลให้ความสำคัญเรื่องน้ำในโครงการ EEC ต้องไม่มีปัญหาการแย่งชิง ขณะผู้ปลูกทุเรียนขอสนับสนุนการขนส่งทางราง เพิ่มตู้ห้องเย็นแบบพิเศษส่งสินค้าไปลาว และจีน
ภายหลังจากที่ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้เดินทางลงพื้นที่ จ.ชลบุรี พร้อมด้วย นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ด้วยการโดยสารรถไฟจากสถานีรถไฟกรุงเทพฯ (หัวลำโพง) ขบวนรถพิเศษ 995 กรุงเทพฯ-แหลมฉบัง มาสถานีรถไฟแหลมฉบัง ต.ทุ่งสุขลา อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี
เพื่อตรวจเยี่ยมการดำเนินงานของท่าเรือแหลมฉบัง โดยเฉพาะศักยภาพในการรองรับตู้สินค้า และการพัฒนาอุตสาหกรรมหนักในการนำเข้าและส่งออกผ่านท่าเรือแหลมฉบัง เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมานั้น
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ในเวลา 13.30 น.วันเดียวกัน (4 พ.ย.) ยังได้นำคณะเดินทางไปอ่างเก็บน้ำหนองปลาไหล อ.ปลวกแดง จ.ระยอง เพื่อติดตามระบบการบริหารจัดการน้ำในอ่างเก็บน้ำให้เพียงพอตอ่การรองรับโครงการเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) โดยมี นายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง กล่าวต้อนรับและร่วมรับฟังการบรรยายสรุปเกี่ยวกับแผนพัฒนาแหล่งน้ำในพื้นที่ EEC ระหว่างปี 2563-2580 จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ขณะที่นายกรัฐมนตรี เผยว่าจังหวัดระยอง และชลบุรี ซึ่งเป็น 2 ใน 3 จังหวัดโครงการเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก และยังเป็นศูนย์ยุทธศาสตร์สําคัญของประเทศ จึงมีความต้องการใช้น้ำสูงกว่าพื้นที่อื่นๆ ที่อาจทำให้เกิดปัญหาความขัดแย้งของ ประชาชนและอาจเกิดการแย่งชิงน้ำในภาคการเกษตรและภาคอุตสาหกรรมได้
“ตรงนี้รัฐบาลให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก ซึ่งที่ประชุมได้มีการนำเสนอเรื่องการการพัฒนาแหล่งน้ำ การเชื่อมต่อและส่งจ่ายน้ำให้เพียงพอจึงเชื่อว่าได้มีการศึกษากันเป็นอย่างดีแล้ว ขณะที่ในช่วง 2 เดือนที่รัฐบาลเข้ามาบริหารจัดการได้ให้ความสำคัญเรื่องการเชิญนักลงทุนต่างชาติให้เข้ามาลงทุนในประเทศไทย ดังนั้นการจัดการเรื่องน้ำและพลังงานสะอาด จึงถือเป็นปัจจัยสำคัญในการจูงใจให้นักลงทุนเข้ามา”
ทั้งนี้ เรื่องของการบริหารจัดการน้ำรัฐบาลไม่ต้องการให้เกิดความล่าช้า ดังนั้น หากภาคส่วนใดมีปัญหาให้เร่งนำเสนอต่อรัฐบาล รวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องทำการสื่อสารเรื่องแนวทางการจัดการน้ำต่อประชาชนให้ชัดเจนเพื่อลดปัญหาความขัดแย้ง โดยเฉพาะการใช้น้ำในภาคเกษตรกรรมและอุตสาหกรรม นายกรัฐมนตรียังเผยอีกว่าในอีก 60 วันข้างหน้าจะกลับมาดูเรื่องการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ภาคตะวันออกอีกครั้ง
จากนั้นจึงได้เดินทางไปศูนย์บริการการพัฒนาปลวกแดงตามพระราชดำริ ต.แม่น้ำคู้ อ.ปลวกแดง เพื่อรับฟังปัญหาของเกษตรกรในพื้นที่ โดยเน้นย้ำให้มีการจัดหาแหล่งน้ำขนาดเล็กเพื่อรองรับการใช้น้ำในช่วงหน้าแล้ง
“จากการพบปะเกษตรกรผู้ปลูกทุเรียน ทราบว่า ต้องการให้รัฐบาลสนับสนุนระบบการขนส่งทางรางเพื่อให้มีการส่งออกทุเรียนส่ไปลาว และจีนมากขึ้น รวมทั้งขอให้เพิ่มจำนวนตู้ห้องเย็น (แบบพิเศษ) ในการขนส่งให้เพียงพอต่อการเพิ่มการส่งออกทางราง เพื่อจูงใจนักลงทุนซึ่งในเรื่องนี้จะให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับเรื่องไปดำเนินการต่อ” นายกรัฐมนตรี กล่าว