นครปฐม - หนุ่มโชเฟอร์รถบรรทุก 10 ล้อถูกยิงเข้าเบ้าตาบนแท่นจอดชั่งน้ำหนักในบ่อดิน อาการสาหัส ตำรวจสอบสวนพบปมคนเจ็บไปทำร้ายร่างกายหญิงที่ขับรถบรรทุก 2 วันก่อน โดยมือยิงเป็นน้องชายกลับมาแก้แค้นให้พี่สาว ตำรวจเร่งติดตามตัวมาดำเนินคดี
วันนี้ (29 ต.ค) พ.ต.ท.ประเทือง แสงอร่าม พนักงานสอบสวนเวร สภ.ดอนตูม จ.นครปฐม รับแจ้งมีคนถูกยิงที่บ่อดิน ม.7 ต.ดอนพุทรา อ.ดอนตูม จ.นครปฐม จึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย นายสุวิทย์ อังศุภากร ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคงอำเภอดอนตูม เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน แพทย์เวร รพ.ดอนตูม เจ้าหน้าที่มูลนิธิสุขศาลานุเคราะห์นครปฐม
ในที่เกิดเหตุเป็นบ่อดินขนาดพื้นที่หลายไร่ ซึ่งระบุว่าเป็นกิจการของสิงห์ต้นสำโรง ผู้ประกอบการบ่อดินและรถบรรทุกรายใหญ่ของจังหวัดนครปฐม โดยที่จุดชั่งน้ำหนักรถบรรทุก เจ้าหน้าที่พบร่างของนายนพคุณ สอดสุข อายุ 44 ปี ชาวจังหวัดนครปฐม นอนตะแคงข้างอยู่ที่พื้น
โดยมีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนที่เบ้าตาซ้ายเลือดไหลเต็มใบหน้า ร่างกายมีอาการเกร็งกระตุกอยู่ตลอดเวลา เจ้าหน้าที่จึงได้ช่วยกันปฐมพยาบาลปิดบาดแผล และเร่งนำตัวขึ้นรถพยาบาลไปที่โรงพยาบาลดอนตูม แต่เสียชีวิตในเวลาต่อมา โดยที่รถบรรทุกพ่วง ยี่ห้ออีซูซุ สีขาว หมายเลขทะเบียนหัวลาก 90-3718 นครปฐม และตัวพ่วงหมายเลข 90-3719 นครปฐม ยังจอดติดเครื่องอยู่ โดยที่ด้านหลังได้บรรทุกดินมาเต็มคันเตรียมขึ้นชั่งน้ำหนักเพื่อจะไปส่งลูกค้า ซึ่งช่วงเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ของบ่อดินดังกล่าวได้มีการบันทึกบันทึกคลิปในการช่วยปฐมพยาบาลเบื้องต้นให้นายนพคุณ โดยเป็นภาพโกลาหลอยู่ในที่เกิดเหตุ
นางรัชนี แก้วเสนมณี อายุ 52 ปี เจ้าหน้าที่ประจำเครื่องชั่งน้ำหนัก บอกว่า ช่วงเกิดเหตุตนได้นั่งทำงานเพื่อจะออกตั๋วในการชั่งน้ำหนักของรถบรรทุกที่มารับดินจะไปส่งลูกค้า โดยรถของนายนพคุณ ได้มาจอดอยู่บนตาชั่งโดยเปิดเครื่องไว้ จากนั้นไม่นานได้ยินเสียงปืนดังขึ้นหนึ่งนัด ตนจึงได้เดินออกมาดู และพบว่า นายนพคุณ นอนจมกองเลือดโดยมีอาการชักเกร็ง จึงได้วิ่งไปช่วยให้คนมาปฐมพยาบาล ก่อนจะโทร.แจ้งตำรวจ ส่วนกล้องวงจรปิดที่อยู่ในที่เกิดเหตุตรงจุดชั่งน้ำหนักเสียมานานแล้ว และตนมองไม่เห็นว่ามีใครเป็นผู้ก่อเหตุ เห็นอีกครั้งคือนายนพคุณนอนอยู่กับพื้นแล้ว
ส่วนนายพิพัฒน์ (นามสมมติ) อายุ 33 ปี บอกว่า ตนเพิ่งทราบข่าวเมื่อตอนสายนี้ และได้เดินทางมาที่บ่อดินดังกล่าว ปรากฏว่ามีการช่วยเหลือนายนพคุณ เพื่อจะนำไปส่งโรงพยาบาล ส่วนปมในการบุกยิงครั้งนี้ตนทราบข่าวจากภายในพื้นที่ว่า เมื่อ 2 วันที่แล้ว นายนพคุณ ได้ก่อเหตุทำร้ายร่างกายน้าสาวของตนชื่อว่านางประทุม (ไม่ทราบนามสกุล) ซึ่งเป็นโชเฟอร์ขับรถบรรทุก 10 ล้ออยู่ที่เดียวกันกับคนก่อเหตุ โดยช่วงนี้ทั้งคู่ต้องขับรถบรรทุกมารับดินที่บ่อดินดังกล่าวเพื่อไปส่งที่ย่านบางแค กรุงเทพฯ ซึ่งคนโดนยิงมีลักษณะอารมณ์รุนแรง ชอบพูดจาตะคอกใส่คนอื่น และข่มขู่คนขับรถบรรทุกด้วยกัน ส่วนคนก่อเหตุคาดว่าน่าจะชื่อนายมล (ไม่ทราบอายุและนามสกุล) น้องชายของนาวประทุม ซึ่งเป็นผู้ก่อเหตุขณะนี้ได้หลบหนีไปแล้ว น่าจะเกิดความแค้นที่พี่สาวถูกทำร้าย จึงได้ตามมาแก้แค้น ส่วนการขัดแย้งกับคนอื่นตนไม่ทราบ
จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุ เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน 7 ได้เดินทางมาเก็บหลักฐานในที่เกิดเหตุโดยยังไม่พบหัวกระสุน หรือปลอกกระสุนว่าเป็นอาวุธปืนขนาดและชนิดใดที่คนร้ายนำมาก่อเหตุ แต่จากการสอบถามพนักงานที่อยู่ในพื้นที่บ่อดินหลายคนบอกว่าเห็นมือยิงขับรถจักรยานยนต์มาจอดที่บ้านพักคนงาน โดยเป็นรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้ารุ่นเวฟ ไม่ทราบทะเบียน เมื่อเห็นนายนพคุณ นำรถมาขึ้นชั่งน้ำหนักและลงมาเพื่อตรวจสอบสภาพรถจึงได้ตรงมายิง ก่อนหลบหนีไปท่ามกลางความชุลมุน
ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ประสานกำลังกับชุดสืบสวนภูธรจังหวัดนครปฐม และสืบสวนภูธรภาค 7 ในการติดตามตัวนายมล มือยิงโดยทราบว่าน่าจะหลบหนีไปแล้วในพื้นที่เขตภาคเหนือ สำหรับเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นการก่อเหตุใช้อาวุธปืนในการทำร้ายผู้อื่นอีกครั้งหลังจากตำรวจภูธรภาค 7 ได้มีคำสั่งชัดเจนห้ามมีการพกพาอาวุธปืนออกมานอกสถานที่และให้มีและใช้เครื่องกระสุนปืนในบ้านเรือนหรือในองค์กรเพื่อปกป้องความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินเท่านั้น หลังจากมีคดีกำนันนก
