เชียงใหม่ – “บ่าฟาย” (Bar Fine) สโลว์บาร์สุดแจ่ม! เสิร์ฟกาแฟและสารพัดเครื่องดื่มคราฟต์ สกัดกลั่นแก้วต่อแก้วด้วยอุปกรณ์เครื่องแก้วแฮนด์เมดครบชุดฝีมือการประดิษฐ์และติดตั้งโดยผู้พ่อที่เป็นช่างเป่าแก้วประสบการณ์สูงกว่า40ปี พร้อมเปิดโอกาสให้ลูกค้าลงมือทำและเลือกส่วนผสมวัตถุดิบเองด้วย เพื่อสร้างสรรค์เครื่องดื่มตามแบบฉบับของตัวเอง
จากกระแสตอบรับของลูกค้าที่มีให้อย่างล้นหลามกับร้าน “ตาชงยายอบ” คาเฟ่สุดเก๋แนวสโลว์บาร์ของสองตายายวัยเก๋าอย่าง “ตาแดง” นายอลังการ วัฒนวิจารณ์ อายุ 64 ปี ช่างเป่าแก้วประสบการณ์สูงกว่า 40 ปี เจ้าของ “Chiangmai Glass Blowing เชียงใหม่การแก้ว” และภรรยาคู่ชีวิตอย่าง “ยายจูน” นางภคนันท์ สมประสงค์ อายุ 62 ปี ที่ใช้พื้นที่บริเวณบ้านของตัวเองในตำบลหนองควาย อำเภอหางดง จังหวัดเชียงใหม่ เปิดร้านกาแฟเล็กๆ บรรยากาศเรียบง่ายสบายๆ ตั้งแต่ต้นปี 2565 โดย“ตาแดง” ทำหน้าที่เป็นคนชงกาแฟ ส่วน “ยายจูน” ทำขนมเบเกอรี่ตามความชอบเหมือนที่ทำให้ครอบครัวรับประทานเป็นประจำพร้อมเสิร์ฟให้ลูกค้า
ขณะที่ความพิเศษอีกอย่างหนึ่งของร้านยังอยู่ที่เครื่องกลั่นแก้วครบชุดที่ใช้ทำกาแฟที่ “ตาแดง” เป็นผู้ประดิษฐ์คิดค้นและทำขึ้นมาด้วยตัวเอง จากความเชี่ยวชาญชำนาญด้านการเป่าแก้วแบบแฮนด์เมดผลิตอุปกรณ์ทดลองวิทยาศาสตร์ตามสั่งให้ห้องปฏิบัติการวิทยาศาสตร์ตามมหาวิทยาลัยต่างๆ นานหลายสิบปี ผสมผสานจินตนาการสร้างสรรค์ออกมาเป็นเครื่องทำกาแฟที่มีรูปร่างหน้าตาราวกับยกอุปกรณ์วิทยาศาสตร์จากห้องปฏิบัติการวิทยาศาสตร์ครบชุดมาใช้ในการชงกาแฟ และเอกลักษณ์เป็นของตัวเองไม่ซ้ำใคร ซึ่งสร้างความแพลิดเพลินและตื่นตาตื่นใจให้กับลูกค้าหรือผู้ที่พบเห็นเป็นอย่างมาก
ล่าสุดสองตายายเจ้าของร้าน“ตาชงยายอบ”ได้ทำการขยับขยายการรองรับลูกค้าที่มากขึ้น เพราะร้านที่ใช้บริเวณบ้านเพียงแห่งเดียวไม่เพียงพอให้การต้อนรับลูกค้าที่พากันจองคิวจนล้นเสียแล้ว จึงเปิดร้านเพิ่มอีกแห่งหนึ่ง ชื่อ “บ่าฟาย” (Bar Fine) ตั้งอยู่ที่กาดเตาอิฐ บริเวณหัวมุมสี่แยกถนนราชพฤกษ์ ทางเข้าอุทยานหลวงราชพฤกษ์ ตำบลหนองควาย อำเภอหางดง จังหวัดเชียงใหม่ พร้อมมอบให้“ฐช” นายฐช กันธิยะ อายุ 29 ปี ลูกชาย เป็นผู้สืบทอดและรับผิดชอบดูแลบริหารจัดการในฐานะเจ้าของร้าน โดยที่ร้านแห่งนี้ยังคงเอกลักษณ์การทำกาแฟและเครื่องดื่มด้วยเครื่องกลั่นแก้วที่“ตาแดง”เป็นผู้ประดิษฐ์ และเสิร์ฟขนมฝีมือ“ยายจูน” เหมือนเดิม แต่ลูกค้าสามารถวอล์คอินเข้าใช้บริการได้เลย
ทั้งนี้ “ฐช” เปิดเผยว่า “บ่าฟาย” (Bar Fine) ถือเป็นร้านรุ่นลูกของ “ตาชงยายอบ” ที่ยังคงเอกลักษณ์ต่างๆ ของร้านรุ่นพ่อแม่ไว้อย่างครบถ้วน โดยเฉพาะในส่วนของการทำกาแฟด้วยเครื่องกลั่นแก้ว พร้อมมีการเพิ่มเติมขึ้นมาในส่วนของเครื่องดื่มคราฟต์อีกหลากหลายอย่าง ทั้งโคล่า,สปาร์คกลิ้ง และสปริต เป็นต้น ซึ่งที่ลูกค้าจะเห็นการสกัดกลั่นทุกขั้นตอนการอย่างละเอียดยิบตั้งแต่ต้นจนจบกระทั่งได้เป็นกาแฟหรือเครื่องดื่มแต่ละแก้ว อีกทั้งทางร้านยังเปิดโอกาสให้ลูกค้าเป็นผู้ทำเครื่องดื่มและเลือกใช้ส่วนผสมหรือวัตถุดิบเองด้วย เพื่อสร้างสรรค์เครื่องดื่มในแบบฉบับของตัวเอง โดยคาดหวังให้ร้านไม่ใช่เพียงแค่ร้านกาแฟและเครื่องดื่ม แต่ยังเป็นชุมชนแห่งการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกันเพื่อสร้างสรรค์เครื่องดื่มจากองค์ความรู้ภูมิปัญญาด้วย
ด้าน “ตาแดง” บอกว่า ร้าน “ตาชงยายอบ” ยังคงเปิดให้บริการอยู่เหมือนเดิม โดยรับเฉพาะลูกค้าที่จองล่วงหน้าเท่านั้น ทำให้ลูกค้าต้องรอคิวนาน จึงตัดสินใจเปิดสาขาเพิ่มเป็นร้าน “บ่าฟาย” (Bar Fine) ให้ลูกชายเป็นเจ้าของร้านดูแลรับผิดชอบทั้งหมด โดยตัวเองเป็นผู้ประดิษฐ์เครื่องกลั่นแก้วพร้อมอุปกรณ์ครบชุดติดตั้งให้ที่ร้านแห่งนี้ ที่ยังคงเอกลักษณ์ตามแบบฉบับของ “ตาชงยายอบ” ไว้อย่างครบถ้วน แต่มีการเพิ่มเติมขึ้นมาในส่วนของเครื่องดื่มคราฟต์อีกหลายอย่างด้วย ซึ่งสามารถตอบโจทย์ลูกค้าได้หลากหลายมากขึ้น ทั้งนี้ลูกค้าที่สนใจสามารถดูรายละเอียดและสอบถามเพิ่มเติมได้ทางเฟซบุ๊ก “Bar Fine-บ่าฟาย”.
