นครปฐม - ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 เดินหน้าชนเครือข่ายยาเสพติดรายใหญ่ โดยสนธิกำลังตำรวจ ทหาร ปกครอง ป.ป.ส. บุกรวบผู้ต้องหาพร้อมของกลางรวม 2.9 แสนเม็ด รถกระบะ 1 คัน อาวุธปืน 14 กระบอก โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับบาดเจ็บขณะเข้าทำการปิดล้อมจับกุม 1 ราย
วันนี้ (27 ต.ค.) ที่ตำรวจภูธรภาค 7 จ.นครปฐม พล.ต.ท.นัยวัฒน์ ผะเดิมชิต ผบช.สยศ.ตร.รรท.ผบช.ภ.7 พล.ต.ต.อุทัย กวินเดชาธร รอง ผบช.ภ.7 พล.ต.ต.ชมชวิณ ปุระธนานนท์ รอง ผบช.ภ.7 พล.ต.ต.ดร.จักษ์ จิตตธรรม ผบก.ภ.จว.สมุทรสาคร นายบรรพต จันทรวงษ์ นายอำเภอกระทุ่มแบน และนายทัศน์พงษ์ วัฒนายากร ผอ.ป.ป.ส.ภาค 7 พร้อมชุดป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ร่วมแถลงผลการจับกุมยาเสพติดรายใหญ่ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 19-20 ต.ค. เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.ภ.จว.สมุทรสาคร ร่วมกับเจ้าหน้าที่ ป.ป.ส.ภาค 7 และเจ้าหน้าที่ทหารหน่วยข่าวกรองทางทหาร ทภ.1 ได้ร่วมกันสืบสวนขยายผลจับกุมผู้ต้องหาคดียาเสพติด จำนวน 9 ราย ของกลางยาบ้า รวมการจับกุมทั้ง 2 ครั้งจำนวน 291,984 เม็ด ปืน 14 กระบอก โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ได้รับบาดเจ็บจากการเข้าจับกุมดังกล่าว
พล.ต.ท.นัยวัฒน์ ผะเดิมชิต ผบช.สยศ.ตร.รรท.ผบช.ภ.7 เผยว่า การแถลงข่าวผลการจับกุมวันนี้ สืบเนื่องมาจากการสืบสวนขยายผลอย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อวันที่ 26 ต.ค. เวลาประมาณ 04.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.ภ.จว.สมุทรสาคร พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ทหารหน่วยข่าวกรองทางทหาร ทภ.1 ได้ร่วมกันขยายผลจากเครือข่ายผู้ค้ายาเสพติดรายดังกล่าวข้างต้น นำไปสู่การจับกุมตัว นายพนุเดช หรือแบ๊ค โคตรพรม อายุ 20 ปี ของกลาง ยาบ้าจำนวน 104,000 เม็ด รถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ รุ่นสปาร์ค สีน้ำเงิน หมายเลขทะเบียน บห 6780 สกลนคร โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง ดำเนินคดีข้อหา “พยายามฆ่าเจ้าพนักงานซึ่งกระทำการตามหน้าที่ หรือเพราะเหตุที่จะกระทำ หรือได้กระทำการตามหน้าที่ และร่วมกันต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานในการปฏิบัติการตามหน้าที่” และ “จำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) โดยมีไว้เพื่อจำหน่าย อันเป็นการกระทำเพื่อการค้าและก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน และก่อให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐหรือความปลอดภัยของประชาชนทั่วไป” ส่งพนักงานสอบสวน สภ.กระทุ่มแบน ดำเนินการตามกฎหมาย
จากการเข้าปิดล้อมจับกุมตัว นายพนุเดช หรือแบ๊ค ทำให้ ด.ต.ธนเดช ศรีนาค ผบ.หมู่ กก.สส.ภ.จว.สมุทรสาคร ได้รับบาดเจ็บมีอาการจุกหน้าอก และบาดเจ็บบริเวณข้อมือขวาและหัวเข่าข้างซ้าย เนื่องจากผู้ต้องหาได้ถอยรถยนต์ชนเจ้าหน้าที่ตำรวจ และรถยนต์ของเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับความเสียหาย จึงดำเนินการนำตัว ด.ต.ธนเดช เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลมหาชัย 2 โดยแพทย์ได้ทำการรักษาเรียบร้อยอยู่ในช่วงพักรักษาตัว และทำให้รถของตำรวจที่เข้าทำการจับกุมได้รับความเสียหายจากการถูกยิงและถูกเฉี่ยวชนในครั้งนี้
ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 กล่าวว่า สำหรับความคืบหน้ากรณีเครือข่ายผู้ค้ายาเสพติดซึ่งจับกุมได้ 9 รายก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ดำเนินการขยายผลอย่างต่อเนื่อง จากเมื่อวันที่ 19-20 ต.ค. โดยอยู่ระหว่างดำเนินการขออนุมัติหมายจับต่อศาลฐานความผิดข้อหาสมคบสนับสนุนในการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด อยู่ระหว่างการติดตามสืบสวนยึดทรัพย์สินของเครือข่ายผู้ค้ายาเสพติดรายดังกล่าวซึ่งจะมีอีกหลายราย
ส่วนกรณี ด.ต.ธนเดช ได้รับบาดเจ็บขณะปฏิบัติหน้าที่นั้น ตามหลักเกณฑ์การช่วยเหลือข้าราชการตำรวจที่ได้รับบาดเจ็บจากการปฏิบัติหน้าที่ ตามมติที่ประชุมคณะกรรมการสวัสดิการ ตร.ครั้งที่ 6/2565 ลง 24 ต.ค.2565 แบ่งการเยียวยาออกเป็น 2 กรณีตามสวัสดิการ ตร. กรณีบาดเจ็บไม่สาหัสระดับ 2 เนื่องจากปะทะต่อสู้ มีอาการบาดเจ็บปานกลาง (พักรักษาตัวตั้งแต่ 15-20 วัน) จะได้รับเงินช่วยเหลือจากสวัสดิการ ตร. จำนวน 40,000 บาท ตามหลักเกณฑ์ของตำรวจภูธรภาค 7 จะได้รับเงินช่วยเหลือส่งเสริมสร้างขวัญกำลังและประสิทธิภาพในการปฏิบัติงาน พ.ศ.2551 กรณีได้รับบาดเจ็บอันสืบเนื่องมาจากการปฏิบัติหน้าที่หรือในระหว่างปฏิบัติหน้าที่ พักรักษาตัวเกินกว่า 10 วัน แต่ไม่เกิน 20 วัน รายละไม่เกิน 12,000 บาท