เชียงราย - แรงงานหนุ่มเชียงรายเปิดใจหลังกลับถึงบ้านปลอดภัย จากนี้ไม่ไปแล้วอิสราเอล..เผยหลังยิวรบฮามาส-ถล่มฉนวนกาซานายจ้างอัปค่าจ้างขึ้นเป็นแสนล่อให้อยู่ต่อจนสงครามยุติ แต่ได้ยินเสียงปืนเสียงจรวดทุกวันจนอยู่ไม่ไหว
วันนี้ (26 ต.ค. 66) นางแสงหล้า ไทใหญ่ มารดา พร้อมญาติๆ ประกอบพิธีมัดมือสู่ขวัญตามประเพณีความเชื่อของชาวภาคเหนือ ให้นายสุรินทร์ ไทใหญ่ อายุ 29 ปี หนึ่งในแรงงานไทยชาวเชียงราย ที่เพิ่งกลับมาจากอิสราเอล มาถึงบ้านป่าไผ่ หมู่ 4 ต.เมืองพาน อ.พาน จ.เชียงราย
นายสุรินทร์กล่าวว่า ตนเดินทางไปทำงานที่ประเทศอิสราเอลได้เพียงประมาณ 4 เดือน โดยทำงานรับจ้างในไร่องุ่น พืชผัก ฯลฯ ห่างจากฉนวนกาซาประมาณ 35 กิโลเมตร แต่ก็ได้ยินเสียงของจรวดและการยิงต่อสู้กันระหว่างทหารอิสราเอลกับกองกำลังฮามาสอย่างชัดเจน รวมทั้งได้เห็นระบบป้องกันภัยทางอากาศหรือไอรอนโดมของอิสราเอลที่สกัดขีปนาวุธจากฝั่งตรงกันข้ามอยู่เป็นระยะๆ
แต่ตนยังติดต่อกับทางบ้านได้ตลอดแม้ในวันที่เริ่มมีการปะทะรุนแรง คือ 7 ต.ค.เพราะทางภาคกลางของอิสราเอลยังไม่ถูกตัดระบบการสื่อสาร จึงได้ปรึกษากับทางบ้านและตัดสินใจว่าจะกลับประเทศไทยเพราะแม้จะอยู่ไกลแต่ก็มีความเสี่ยง
นายสุรินทร์กล่าวอีกว่า เดิมนายจ้างชาวอิสราเอลให้ค่าจ้างแก่ตนเดือนละประมาณ 5,000-6,000 เชเกล คิดเป็นเงินสกุลไทยคือประมาณ 40,000-50,000 บาท หลังเกิดเหตุการณ์ต่อสู้กันครั้งใหญ่ ตนจึงไปแจ้งนายจ้างว่าขอกลับประเทศไทย ซึ่งทางนายจ้างรวมถึงเจ้าหน้าที่ของอิสราเอลพยายามพูดโน้มน้าวให้ตนทำงานต่อ โดยยื่นเงื่อนไขว่าหากทำงานต่อจนถึงสิ้นสุดเหตุการณ์รุนแรง ก็จะได้รับค่าตอบแทนเพิ่มเป็นเดือนละ 10,000 เชเกล หรือร่วมๆ 100,000 บาท
อย่างไรก็ตาม ตนเห็นว่าสถานการณ์คงจะยืดเยื้อและไม่จบลงง่ายๆ จึงยืนยันว่าจะเดินทางกลับบ้านในที่สุด และเมื่อมาถึงประเทศไทยตนได้สมัครเป็นพนักงานส่งของที่ จ.เชียงใหม่เอาไว้แล้ว และคิดว่าคงจะไม่กลับไปทำงานที่ประเทศอิสราเอลอีกต่อไป
รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับ จ.เชียงราย เคยมีแรงงานที่ทำงานในประเทศอิสราเอลจำนวน 2,174 คน เป็นชาย 2,148 คน และหญิง 26 คน มีภูมิลำเนากระจายครบทั้ง 18 อำเภอของจังหวัด มีผู้ได้รับการยืนยันว่าเสียชีวิต 1 ราย รอยืนยันการเสียชีวิต 1 ราย ถูกจับเป็นตัวประกัน 1 ราย ได้รับบาดเจ็บ 1 ราย และญาติขอความช่วยเหลือ 9 ราย
ขณะที่นายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการ จ.เชียงราย ได้มอบหมายให้หน่วยงานต่างๆ เช่น ฝ่ายปกครอง พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) จัดหางาน ฯลฯ ร่วมกับเหล่ากาชาด จ.เชียงราย เข้าพบปะกับญาติทุกรายเพื่อให้คำปรึกษา เป็นขวัญกำลังใจและให้การช่วยเหลือแล้ว