มุกดาหาร - สำนักงานศุลกากรภาคที่ 2 สนธิกำลังหน่วยความมั่นคงในพื้นที่ ตรวจยึดของกลางกระเทียมแห้ง
325 กระสอบ น้ำหนักรวม 6,500 กก. มูลค่า 600,000 บาท พร้อมเรือเหล็ก-เครื่องยนต์ 1 ลำบรรทุกได้ 30 ตัน ลักลอบนำเข้าจากประเทศเพื่อนบ้าน ส่วนผู้ต้องหาพากันหลบหนีไปได้เช่นเคย
จากกรณี นายชนินทร์ ศุภรินทร์ ผู้อำนวยการส่วนควบคุมทางศุลกากร สำนักงานศุลกากรภาคที่ 2 ได้รับแจ้งจากสายว่าจะมีการลักลอบนำเข้ากระเทียมจากฝั่งประเทศลาวที่บริเวณท่าน้ำบ้านบางทรายใหญ่ ต.บางทรายใหญ่ อ.เมือง จ.มุกดาหาร จึงได้ประสาน นายนพปฎล ศิริขันธ์ หัวหน้าปราบปรามด่านศุลกากรมุกดาหาร, ร้อย.ฉก.2105 ฉก.ทพ.21 กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี, มว.ปล.ที่ 2 ร้อย.ร.กกลฯ บก.ควบคุมที่ 1(ร.3) กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี, สำนักการข่าว กอ.รมน. ฝ่ายปกครองจังหวัดมุกดาหาร และเจ้าหน้าที่ประชุมวางแผน แล้วลงพื้นที่ที่ได้รับแจ้ง
กระทั่งเวลาประมาณ 02.30 น. เจ้าหน้าที่ได้พบเรือยนต์ต้องสงสัยขับมาจอดเทียบท่าบริเวณแม่น้ำโขง ต.บางทรายใหญ่ อ.เมือง เจ้าหน้าที่จึงได้ใช้เรือยนต์เข้าประชิดและแสดงตัวเพื่อตรวจค้นเรือลำดังกล่าว แต่บุคคลที่อยู่บนเรือได้หลบหนีการจับกุม โดยกระโดดลงแม่น้ำโขงและอาศัยความมืดว่ายน้ำหลบหนีในทันที ผลการตรวจค้นพบกระเทียมสดไม่แกะกลีบ มีเมืองกำเนิดต่างประเทศ ลักลอบเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ผ่านพิธีการศุลกากร ปริมาณรวม 6,500 กิโลกรัม พร้อมด้วยเรือของกลาง มูลค่าของกลางรวมประมาณ 600,000 บาท
จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ตรวจยึดของกลางทั้งหมดมาที่ด่านศุลกากรมุกดาหาร พร้อมแจ้งข้อกล่าวหา ลักลอบนำเข้ามาในราชอาณาจักรซึ่งของที่ยังมิได้ผ่านพิธีการศุลกากร อันเป็นความผิดตามมาตรา 242 ประกอบมาตรา 252 แห่งพระราชบัญญัติสุลกากร พ.ศ. 2560 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสิบปี ก่อนส่งด่านศุลกากรมุกดาหาร เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ตรวจยึดของกลางทั้งหมดมาที่ด่านศุลกากรมุกดาหาร พร้อมแจ้งข้อกล่าวหา ลักลอบนำเข้ามาในราชอาณาจักรซึ่งของที่ยังมิได้ผ่านพิธีการศุลกากร อันเป็นความผิดตามมาตรา 242 ประกอบมาตรา 252 แห่งพระราชบัญญัติสุลกากร พ.ศ. 2560 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสิบปี ก่อนส่งด่านศุลกากรมุกดาหาร เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป