หนองคาย-จังหวัดหนองคาย พร้อมแล้วต้อนรับนักท่องเที่ยวชมปรากฎการณ์บั้งไฟพญานาค 29 ตุลาคมนี้ จัดกิจกรรม 6 อำเภอตามริมแม่น้ำโขง
เมื่อเวลา 18.00 น. วันที่ 20 ต.ค.66 ที่ลานวัฒนธรรมริมแม่น้ำโขง วัดลำดวน เขตเทศบาลเมืองหนองคาย นายราชันย์ ซุ้นหั้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย, นายประทีป อุ่ยเจริญ ปลัดจังหวัดหนองคาย, พ.ต.อ.ปรีชา กองแก้ว รองผบก.ภ.จ.หนองคาย, นพ.ณรงค์ จันทร์แก้ว นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดหนองคาย และนางธนภร พูลเพิ่ม ผอ.ททท.สำนักงานอุดรธานี ร่วมกันแถลงข่าวงานประเพณีออกพรรษาและบั้งไฟพญานาคโลก ประจำปี 2566
นายราชันย์ ซุ้นหั้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย กล่าวว่า งานประเพณีออกพรรษาบั้งไฟพญานาค เป็นงานที่ชาวหนองคายจัดขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นประจำทุกปี ในวันออกพรรษาจะได้ชมปรากฏการณ์ธรรมชาติ บั้งไฟพญานาค ซึ่งปีนี้ตรงกับวันอาทิตย์ ที่ 29 ต.ค.66 โดยสถิติบั้งไฟพญานาคเมื่อปี 2565 ที่ผ่านมา จากข้อมูลของป้องกันจังหวัดหนองคาย รวบรวมได้ 260 ลูก เกิดบั้งไฟพญานาคในพื้นที่ อ.โพนพิสัย 20 ลูก และ อ.รัตนวาปี 240 ลูก
ส่วนในปีนี้นอกจากการชมปรากฏการณ์บั้งไฟพญานาคแล้ว ยังมีกิจกรรมรองรับนักท่องเที่ยวใน 6 อำเภอริมแม่น้ำโขง เช่น อ.สังคม อ.ศรีเชียงใหม่ อ.ท่าบ่อ, อ.เมืองหนองคาย อ.โพนพิสัย และ อ.รัตนวาปี โดยแต่ละอำเภอจะมีทั้งงานแสดงวัฒนธรรม กิจกรรมบนเวที ถนนอาหาร การแข่งขันเรือยาว การแสดงแสงเสียง และการรำบวงสรวงบูชาพญานาค
นางธนภร พูลเพิ่ม ผอ.ททท.สำนักงานอุดรธานี กล่าวว่า ในแต่ละปีจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาชมปรากฏการณ์บั้งไฟพญานาคจำนวนมาก สร้างรายได้ให้กับจังหวัดหนองคายปีละหลายร้อยล้านบาท จึงขอเชิญชวนประชาชนและนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ร่วมสัมผัสปรากฏการณ์แห่งศรัทธาและร่วมกิจกรรมในงานประเพณีออกพรรษาบั้งไฟพญานาค ซึ่งจะได้มีโอกาสร่วมทำกิจกรรมที่เป็นสิริมงคลกับชีวิตและสามารถเดินทางไปท่องเที่ยวตามความเชื่อและศรัทธาในเรื่องของพญานาคอีกหลายแห่งในจังหวัดหนองคาย
ด้าน พ.ต.อ.ปรีชา กองแก้ว รองผบก.ภ.จ.หนองคาย กล่าวถึงมาตรการดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินและการจัดการจราจรในช่วงการจัดงานว่า จะมีการจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการในทุกอำเภอ จัดกำลังเจ้าหน้าที่เพื่อดูแลความเรียบร้อยให้บริการประชาชน พร้อมการสนธิกำลังกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้สามารถปฏิบัติหน้าที่ดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน วางมาตรการการระบายรถ การเดินรถ การบังคับใช้กฎหมายจราจร การเปิดเส้นทางเดินรถทางเดียวในช่วงเวลาที่กำหนดเพื่อให้ประชาชนนักท่องเที่ยวได้รับความสะดวกมากที่สุด.