จันทบุรี - จังหวัดจันทบุรี สนธิกำลังร่วมหลายหน่วยงาน และชุดเฉพาะกิจกระทรวงเกษตรฯ สุ่มตรวจสอบห้องเย็น 13 แห่งในพื้นที่ ไม่พบทั้งการลักลอบเก็บสินค้าเกษตรและลักลอบนำเข้าเนื้อสัตว์ผิดกฎหมาย
วันนี้ ( 20 ต.ค.) นายธวัชชัย นามสมุทร รองผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี ได้นำหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รวมทั้งปศุสัตว์จังหวัด และเจ้าหน้าที่กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน จ.จันทบุรี สารวัตรทหารจากมณฑลทหารบกที่ 19 ตำรวจภูธร พาณิชย์จังหวัดจันทบุรี และชุดเฉพาะกิจของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เข้าตรวจสอบห้องเย็น 2 แห่งในพื้นที่ จ.จันทบุรี
ประกอบด้วย สหกรณ์การเกษตรเขาคิชฌกูฏ โดยพบทุเรียนแช่แข็งประมาณ 40 ตัน มูลค่าประมาณ 5 ล้านบาท และไม่พบซากสัตว์ใดๆ
ส่วนห้องเย็นท่าจุ๊ย หรือห้างหุ้นส่วนจำกัด ส.สุชีรา 46 ต.เขาบายศรี อ.ท่าใหม่ พบซากสุกรประมาณ 200 กิโลกรัม มูลค่าประมาณ 20,000 บาท และยังพบซากสัตว์ปีกอีกประมาณ 500 กิโลกรัม มูลค่าประมาณ 40,000 บาท รวมทั้งสินค้าประมงประมาณ 10 ตัน มูลค่าประมาณ 1 ล้านบาท โดยห้องเย็นดังกล่าวเป็นห้องเย็นที่รับฝากสินค้าทางการเกษตร
ขณะที่ผลการปฏิบัติงานตามมาตรการป้องกัน ปราบปรามการลักลอบนำเข้าเนื้อสัตว์ ตามนโยบายประกาศสงครามกับสินค้าการเกษตรที่ผิดกฎหมายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในพื้นที่ จ.จันทบุรี ระหว่างวันที่ 12-19 ต.ค.ที่ผ่านมา ที่ได้มีการเข้าตรวจห้องเย็นไปแล้ว 13 แห่ง
พบซากสุกรประมาณ 31 ตัน ซากสัตว์ปีกประมาณ 15 ตัน ซากโค-กระบือประมาณ 3 ตัน รวม 50 ตัน มูลค่าประมาณ 7 ล้านบาท สินค้าประมงประมาณ 30 ตัน มูลค่าประมาณ 10 ล้านบาท สินค้าเกษตร (ผลไม้) ประมาณ 1,700 ตัน มูลค่าประมาณ 185 ล้านบาท
โดยไม่พบการลักลอบเก็บสินค้าเกษตรที่ผิดกฎหมาย ทั้งนี้ หากมีการตรวจพบผู้ฝ่าฝืนลักลอบเคลื่อนย้ายซากสัตว์มาเก็บไว้โดยไม่ได้รับอนุญาต เจ้าหน้าที่จะดำเนินคดีในฐานความผิดตาม พ.ร.บ.โรคระบาดสัตว์ พ.ศ.2558 กำหนดโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 4 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับในทันที
นอกจากนั้น ยังจะมีความผิดตาม พ.ร.บ.ควบคุมการฆ่าสัตว์เพื่อการจำหน่ายเนื้อสัตว์ พ.ศ.2559 กำหนดโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
