ปราจีนบุรี - หนุ่มปราจีนฯ สุดทน พ่วง 18 ล้ออันตรายขับส่ายไปมาบนถนน 304 ฝั่ง อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา มุ่งหน้า อ.กบินทร์บุรี ซ้ำเบรกลากยาวจนเกิดควันดำสร้างความเดือดร้อนผู้ร่วมเส้นทางจนหวั่นว่าจะเกิดอันตราย นำคลิปแจ้งตำรวจคาดคนขับมีอาการเมา ชี้เป้าขับรถเข้านิคม 304
จากกรณีที่มีผู้ใช้รถใช้ถนนสาย 304 ฝั่ง อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา มุ่งหน้า อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ได้ถ่ายคลิปวิดีโอขณะกำลังขับรถอยู่บนถนน แต่กลับต้องพบกับรถบรรทุกพ่วงที่ขับส่ายไปมาจนสร้างความหวาดเสียวให้ผู้ใช้รถใช้ถนนรายอื่นๆ ซึ่งในคลิปจะเห็นได้ว่ารถบรรทุกพ่วงได้ขับปาดไปมาในช่วงก่อนถึงไฟแดงในขณะที่กำลังมีฝนตก
โดยรถบรรทุกคันดังกล่าวยังได้เบรกอย่างกะทันหันจนทำให้ลูกพ่วงสะบัดออกทางด้านซ้าย เดชะบุญที่ในขณะนั้นไม่มีรถยนต์คันใดจอดอยู่ จึงทำให้ไม่เกิดการสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สิน
และผู้ถ่ายคลิปยังได้บรรยายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วยว่า "เอาแน่ มันเอาแน่ มันปาดแน่เราต้องตามตูดเขาอย่างเดียว มันรีบไปไหน ต้องตามไปดู" ก่อนนำคลิปดังกล่าวมอบให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 19 ต.ค.ที่ผ่านมานั้น
วันนี้ (20 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปพบกับ นายธเนศ นึกรัก อายุ 41 ปี เจ้าของคลิปดังกล่าวซึ่งบอกว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นที่แยกต่างระดับเขาหินซ้อน จ.ฉะเชิงเทรา ก่อนถึงปั๊มน้ำมัน ซึ่งรถพ่วง 18 ล้อคันก่อเหตุได้เบรกลากล้อเป็นทางยาวจนเกิดควันดำจนทำให้ระบบเตือนภัยในรถของ BMW ของตนเองทำงาน จนต้องบอกให้ลูกสาวซึ่งเป็นคนขับใช้ความระมัดระวัง และเว้นระยะห่าง
จากนั้นยังได้เห็นว่ารถพ่วงได้ขับส่ายไปมา ก่อนจะเร่งเครื่องขับปาดซ้ายขวาแซงรถคันหน้า ก่อนจะเบรกจนล้อลากทำให้เกิดกลุ่มควันพวยพุ่งบนถนน
"ในครั้งแรกคิดว่ารถพ่วง 18 ล้อที่ขับส่ายไปมามีปัญหากับรถบรรทุกที่วิ่งอยู่ด้านหน้า แต่จากการสังเกตแล้วพบว่าไม่ใช่ เพราะรถพ่วง 18 ล้อยังขับแบบนี้ไปจนมาถึงแยกโรงงานแลคตาซอย ก่อนจะขับปาดเข้าซอยแยกด้านหน้า ทำให้ลูกสาวที่ขับตามไปจนถึงแยกไทวัสดุ ซึ่งขณะนั้นล้อรถพ่วงได้สะบัดอย่างแรงจนเกือบจะชนรถอีกคันหนึ่งที่จอดอยู่ริมถนนก่อนจะขับเลี้ยวเข้านิคมอุตสาหกรรม 304 โดยหลังเกิดเหตุได้โทรศัพท์แจ้ง 191 ในทันทีเพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบทะเบียนรถและคนขับพ่วง 18 ล้อ ดำเนินคดีต่อไป"
เบื้องต้น เชื่อว่าคนขับรถพ่วงน่าจะมีอาการเมา หรืออาจจะขับรถด้วยความรีบร้อนจนอาจจะก่อให้เกิดอันตรายกับผู้ใช้รถถนน พร้อมขอฝากเตือนถึงคนขับรถพ่วงคันดังกล่าวว่าควรเคารพกฎจราจร และให้เกียรติผู้ใช้รถใช้ถนนร่วมกัน