กาญจนบุรี - นอภ.สังขละบุรี และศรีสวัสดิ์ ลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจญาติแรงงานอิสราเอล ยันอยู่ห่างจุดอันตราย ขอทำงานต่อ
วันนี้ (18 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีเกิดสถานการณ์ความรุนแรงขึ้นที่อิสราเอล ทำให้แรงงานชาวไทยได้รับบาดเจ็บ รวมทั้งเสียชีวิตและถูกจับตัวเป็นประกันหลายรายนั้น จากรายงานของสำนักงานจัดหางานจังหวัดกาญจนบุรี ที่ได้ตรวจสอบข้อมูลแรงงานไทยเฉพาะในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี ที่ไปทำงานในอิสราเอล จนถึงปัจจุบันพบว่า มีจำนวนทั้งหมด 24 คน เป็นชาย 23 คน หญิง 1 คน ตำแหน่งงานที่ทำเป็นคนงานภาคเกษตร จำนวน 18 คน การเกษตร 3 คน ช่างเชื่อม จำนวน 2 คน และพ่อครัวชั้นหนึ่ง จำนวน 1 คน โดยแรงงานทั้ง 24 คน ไม่ประสงค์เดินทางกลับประเทศเพื่อหนีภัยสงคราม เนื่องจากสถานที่ทำงานอยู่ห่างจากจุดอันตรายมาก
ทั้งนี้ นายสุทธิพร ศิวเวทพิกุล นายอำเภอสังขละบุรี จ.กาญจนบุรี เปิดเผยว่า อำเภอสังขละบุรีมีแรงงานเดินทางไปทำงานเป็นช่างเชื่อมที่อิสราเอล จำนวน 1 ราย คือ นายสุพิศ จันดากรณ์ ที่ผ่านมา ร้อยโททศพล ไชยโกมินทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี มีความห่วงใยแรงงานชาวกาญจนบุรีทั้ง 24 คน ที่เดินทางไปทำงานที่อิสราเอลเป็นอย่างมาก
ถึงแม้จะได้รับรายงานว่าแรงงานทั้ง 24 ราย ไม่ประสงค์ที่จะเดินทางกลับประเทศไทยเพราะที่ทำงานอยู่ห่างไกลจากจุดอันตรายก็ตาม แต่ท่านผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรีได้มอบหมายให้นายอำเภอแต่ละอำเภอที่มีแรงงานเดินทางไปทำงานที่อิสราเอลเดินทางไปเยี่ยมให้กำลังใจเพื่อสร้างความอุ่นใจให้ครอบครัวของแรงงานทุกคน
โดยวานนี้ (17 ต.ค.) ตนพร้อมด้วย น.ส.กรองแก้ว ศิวเวทพิกุล นายกกิ่งกาชาดอำเภอสังขละบุรี พร้อมคณะ และกำนัน ผู้ใหญ่บ้านได้เดินทางไปเยี่ยมและให้กำลังใจครอบครัวของนายสุพิศ จันดากรณ์ ที่บ้านเลขที่ 87 หมู่ 3 ต.ปรังเผล อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี จากการพูดคุยกับครอบครัวทราบว่า นายสุพิศ จันดากรณ์ ได้ดินทางไปทำงานเป็นช่างเชื่อมได้ 3 เดือน มีรายได้เดือนละ 90,000 บาท
โดยภรรยาของนายสุพิศ จันดากรณ์ ได้พูดคุยกับตนทางโทรศัพท์ผ่านระบบวิดีโอคอล และแจ้งให้ทราบว่าถึงแม้สามีจะได้รับผลกระทบจากภัยสงครามอยู่บ้างก็ตาม แต่สถานที่ทำงานของสามีนั้นเป็นพื้นที่ที่มีความปลอดภัย สามีจึงยังไม่ประสงค์ที่จะเดินทางกลับประเทศไทยแต่อย่างใด และจากการที่ได้พูดคุยกับภรรยาและครอบครัวของนายสุพิศ ต่างรู้สึกสบายใจ ซึ่งตนจะได้รายงานให้ร้อยโททศพล ไชยโกมินทร์ ผวจ.กาญจนบุรี ได้ทราบต่อไป
ด้านนายธนยศ หิรัญเนตร นายอำเภอศรีสวัสดิ์ เปิดเผยว่า สำหรับแรงงานชาวอำเภอศรีสวัสดิ์ที่เดินทางไปทำงานที่อิสราเอลมี จำนวน 3 ราย รายแรกคือ นายอธิปัตย์ อยู่สุข ชาวหมู่ 5 ต.ท่ากระดาน ซึ่งมีอาชีพเกษตรกรรม มีรายได้ 50,000 บาทต่อเดือน และเพิ่งไปทำงานได้ 3 เดือน ส่วนสถานที่พักและที่ทำงานอยู่ห่างจากจุดที่มีการสู้รบ ปัจจุบันยังคงปลอดภัย และไม่ประสงค์ที่จะกลับเมืองไทยในเวลานี้เช่นกัน
รายที่สองคือ นายกฤติพรรธน์ วิเศษสิงห์ ชาว ต.ด่านแม่แฉลบ ซึ่งมีอาชีพเกษตรกรรม รายได้ต่อเดือน 60,000 บาท และเพิ่งทำงานได้ 1 ปี 3 เดือน สถานที่พักและที่ทำงานอยู่ห่างจากจุดที่มีการสู้รบ ปัจจุบันยังคงปลอดภัย และไม่ประสงค์ที่จะกลับเมืองไทยในเวลานี้
และรายที่สามคือ นายประภาส ลำไยงาม ชาว ต.เขาโจด ซึ่งมีอาชีพเกษตรกรรม มีรายได้ต่อเดือน 40,000 บาท และทำงานได้ 4 ปีแล้ว สถานที่พักและที่ทำงานอยู่ห่างจากจุดที่มีการสู้รบ ปัจจุบันยังคงปลอดภัย และไม่ประสงค์ที่จะกลับเมืองไทยในเวลานี้เช่นกัน
โดยตนได้แจ้งกับครอบครัวแรงงานไทยที่ไปทำงานที่อิสราเอล ว่า ท่านผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี นายกเหล่ากาชาดจังหวัดกาญจนบุรี มีความห่วงใยและส่งกำลังใจมาให้ครอบครัวทุกครอบครัว โดยได้มอบถุงยังชีพ และเครื่องอุปโภคและบริโภคให้ญาติของแรงงานทั้ง 3 ครอบครัวเพื่อเป็นขวัญและกำลังใจ ทางครอบครัวรู้สึกดีใจเป็นอย่างยิ่ง ที่ท่านผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี นายกเหล่ากาชาดจังหวัดกาญจนบุรี และพัฒนาการจังหวัดกาญจนบุรีมีความห่วงใยมาสู่ครอบครัวของพวกตน
หากครอบครัวหรือญาติของแรงงานไทยที่ทำงานในประเทศอิสราเอลต้องการประสานข้อมูลและติดตามสถานการณ์แรงงานไทยในประเทศอิสราเอล สามารถติดต่อได้ที่ศูนย์ช่วยเหลือแรงงานและติดตามสถานการณ์การสู้รบในอิสราเอล จังหวัดกาญจนบุรี ศูนย์ดำรงธรรมอำเภอ พร้อมทั้งได้มอบหมายให้ นายคณิน ทองก้อน ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคง ติดตามข่าวสารและความต้องการจากครองครัวแรงงานต่อไป