ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - เกษตรกรชาวโคราชเฮ รัฐบาลดันนโยบายเปลี่ยน ส.ป.ก.เป็นโฉนด นำไปค้ำขอสินเชื่อมาทำเกษตรได้ ไม่ต้องกู้หนี้นอกระบบให้เดือดร้อน
ตามที่คณะกรรมการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม หรือ คปก.ได้มีมติเห็นชอบในหลักการ เปลี่ยน ส.ป.ก. 4-01 เป็นโฉนดที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พร้อมพักชำระหนี้เกษตรกรลูกหนี้เงินกู้กองทุน ส.ป.ก. 3 ปี ตามมติในที่ประชุมคณะกรรมการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ครั้งที่ 5/2566 เมื่อวันที่ 12 ตุลาคม 2566 ที่ห้องประชุมไชยยงค์ ชูชาติ ส.ป.ก. กรุงเทพฯ ซึ่งมี ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานการประชุมฯ และได้กล่าวเน้นย้ำว่า “โฉนดที่ดินเพื่อเกษตรกรรมฉบับแรกจะสามารถแจกแก่พี่น้องเกษตรกรได้ภายในวันที่ 15 มกราคม 2567 แน่นอน
หลังจากนั้นเมื่อครบระยะเวลา 1 ปี ส.ป.ก.จังหวัดทุกจังหวัดจะเริ่มทยอยออกโฉนดให้พี่น้องเกษตรกรในทุกจังหวัด และคาดว่าจะออกโฉนดได้แล้วเสร็จทั้งหมดภายใน 5 ปี” ซึ่งหลังจากรัฐบาลเศรษฐาได้ผลักดันนโยบายนี้ออกมา ทำให้พี่น้องเกษตรกรชาวจังหวัดนครราชสีมาดีใจกันอย่างมาก เพราะทุกวันนี้สภาพอากาศค่อนข้างแปรปรวน ส่งผลกระทบต่อการทำเกษตร โดยเฉพาะการทำสวนผลไม้-ปลูกพืชผักต่างๆ เกษตรกรต้องหาเงินทุนมาปรับปรุงดูแลเพื่อไม่ให้พืชผลได้รับความเสียหาย
วันนี้ (16 ตุลาคม 2566) ผู้สื่อข่าวจึงลงพื้นที่ไปที่อำเภอวังน้ำเขียว จังหวัดนครราชสีมา สอบถามความคิดเห็นของพี่น้องเกษตรกรที่มีต่อนโยบายเปลี่ยน ส.ป.ก.เป็นโฉนดที่ดิน ซึ่ง คปก.ได้มีมติเห็นชอบหลักการในเรื่องนี้ โดยนางนิภาพรรณ ลอนิกูล อายุ 59 ปี เกษตรกรปลูกผลไม้ผสมผสาน ที่สวนสมนึก อำเภอวังน้ำเขียว จังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า ตนปลูกผลไม้ผสมผสานบนเนื้อที่กว่า 35 ไร่ เช่น ทุเรียน ลองกอง พุทรานมสด ลิ้นจี่ มะม่วง แก้วมังกร มะยงชิด กล้วย ฝรั่ง ฯลฯ ทำมากว่า 50 ปีตั้งแต่รุ่นพ่อ ปลูกแบบปลอดสารพิษ
ซึ่งพอได้ทราบข่าวว่ารัฐบาลมีนโยบายที่จะเปลี่ยนเอกสารสิทธิ ส.ป.ก.ให้เป็นโฉนดที่ดินก็รู้สึกดีใจอย่างมาก เพราะจะได้เอาโฉนดที่ดินไปค้ำประกันเงินกู้กับสถาบันการเงินเพื่อนำเงินมาปรับปรุงดูแลสวนให้ดีขึ้น จะรอฝนรอธรรมชาติมาช่วยเพียงอย่างเดียวไม่ได้ ต้องมีเงินทุนไปซื้อหาปุ๋ยธรรมชาติมาบำรุง และหาเครื่องไม้เครื่องมือมาช่วยปรับปรุงทำให้พืชผลเจริญเติบโต ได้ผลผลิตที่ดีและคุ้มค่าต่อการลงทุน ซึ่งที่ผ่านมาตนไม่มีเงินทุนมาใช้พัฒนาดูแลสวน จึงทำให้แต่ละปีได้ผลผลิตไม่มากนัก และผลผลิตไม่ค่อยจะสมบูรณ์ ทำให้ขายไม่ได้ราคา
ในขณะที่นางบัญญัติ ยวนเมือง อายุ 50 ปี เกษตรกรอีกราย ที่บ้านคลองทราย อำเภอวังน้ำเขียว บอกว่า ดีใจที่รัฐบาลมองเห็นความสำคัญของพี่น้องเกษตรกร และเห็นดีด้วยที่รัฐออกนโยบายนี้มาช่วยเหลือ เกษตรกรจะได้มีทางเลือกและมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ไม่ต้องเดือดร้อนไปกู้หนี้รายวันหรือหนี้นอกระบบมาใช้เพาะปลูก ซึ่งตนมีที่ ส.ป.ก.อยู่ 5 ไร่ ปลูกกระท้อน อะโวคาโด และทุเรียน ที่ผ่านมาแต่ละปีต้องหาเงินมาบำรุงดูแลผลไม้ภายในสวนเพื่อให้ออกผลผลิตตามฤดูกาล จะได้มีไว้ขายให้ลูกค้าและนักท่องเที่ยวที่แวะเวียนมาที่อำเภอวังน้ำเขียว และจะได้มีเงินไว้ทำทุนเพาะปลูกในรอบต่อไป
