xs
xsm
sm
md
lg

อุกอาจสุดสะเทือนขวัญ! คนร้ายฆ่า-เผาหญิงวัย 63 ปี ดับสยองคาบ้านกลางสวนแม่ริม

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เชียงใหม่ - คนร้ายก่อเหตุฆ่าเผาหญิงวัย 63 ปีคาบ้านในสวนแม่ริม หลังได้เงินปันผลสหกรณ์ฯ เป็นเงินหลักแสน-เอาทองหนัก 10 บาทที่เคยฝากญาติไว้กลับมาได้ไม่กี่วัน ก่อนขาดการติดต่อ 2 วัน จนลูกทำงานอยู่ ตจว.แจ้งญาติในหมู่บ้านเดียวกันมาดู


วันนี้ (14 ต.ค. 66) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ ชุดสืบสวน สภ.แม่ริม และ ชุดสืบสวนภูธรจังหวัดเชียงใหม่ ร่วมกับเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน และแพทย์เวรโรงพยาบาลนครพิงค์ เข้าตรวจสอบภายในบ้านเลขที่ 64 หมู่ 3 ต.ริมใต้ อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ หลังได้รับแจ้งจากผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านว่าพบศพเจ้าของบ้าน เป็นหญิงวัย 63 ปี ถูกฆ่าเผาอย่างโหดเหี้ยมในสวนข้างบ้าน

จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุเป็นบ้านสองชั้นบนเนื้อที่ประมาณ 1 ไร่ พบศพนางยุพิน พงษ์จำรัส 63 ปี ซึ่งเป็นเจ้าของบ้านอยู่บริเวณสวน ห่างจากตัวบ้านราว 5 เมตร สภาพศพถูกเผาจนไหม้เกรียมเหลือเพียงร่างส่วนบน ใกล้กันพบตะกร้าผ้าและเสื้อผ้าบางส่วน ขณะที่ประตูบ้านด้านหน้าถูกล็อกเอาไว้

ภายในห้องครัวพบแก้วที่มีกาแฟชงไว้แต่ยังดื่มไม่หมดและมีน้ำหวานอีกขวดหนึ่ง ในตัวบ้านไม่พบร่องรอยการต่อสู้หรือรื้อค้นทรัพย์สิน แต่พบร่องรอยตะกร้าผ้ากระจัดกระจายบริเวณประตูหลังบ้านที่อยู่ใกล้กับจุดพบศพ

เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานได้เก็บร่องรอยหลักฐานที่เกิดเหตุเพื่อตรวจสอบทางนิติวิทยาศาสตร์ พร้อมกับนำกล้องวงจรปิดที่อยู่ด้านหน้าบ้านไปตรวจสอบหาเบาะแสคนร้ายด้วย


นางสาวพัลยมนต์ สร้อยงาม ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหมู่ 3 เปิดเผยว่า ผู้ตายอาศัยอยู่ที่บ้านหลังนี้เพียงลำพังหลังจากสามีเสียชีวิตมานานหลายปี ส่วนลูกชายและลูกสาวไปทำงานอยู่ต่างจังหวัด ปกติผู้ตายเป็นคนร่าเริงอารมณ์ดี ไม่เคยมีปัญหากับใครและที่ผ่านมาก็ไม่เคยเห็นคนแปลกหน้าเข้าออกบ้านหลังนี้ โดยก่อนจะพบเป็นศพได้รับการร้องขอจากญาติของผู้ตายที่อยู่ในหมู่บ้านเดียวกันให้ช่วยไปดูที่บ้านเพราะขาดการติดต่อมาแล้ว 2 วัน เมื่อมาดูก็พบถูกฆ่าเผาดังกล่าว

ขณะที่ญาติเล่าว่าผู้ตายเคยทำงานเป็นลูกจ้างที่โรงพยาบาลตำรวจค่ายดารารัศมี อ.แม่ริม หลังจากเกษียณเมื่อ 3 ปีก่อนก็อยู่ที่บ้านหลังนี้ตามปกติ และเป็นคนชอบทำบุญ เป็นที่รักของเพื่อนๆ

ซึ่งเมื่อวันที่ 10 ตุลาคมที่ผ่านมา ก่อนที่จะพบว่าเสียชีวิต ผู้ตายบอกว่าได้เงินปันผลจากสหกรณ์ที่ทำงานเดิมเป็นเงินหลักแสนและบอกว่าจะโอนเงินมาใช้หนี้ให้กับญาติ 10,000 บาท และยังพูดเล่นด้วยว่าจะแจกเงินให้เพื่อนๆ คนละ 2,000 บาท นอกจากนี้ยังทราบว่าก่อนเสียชีวิตได้ไปเอาทองที่ฝากไว้กับญาติกลับมาเก็บไว้ที่บ้านอีก 10 บาท


แต่หลังจากนั้นในวันที่ 12 ตุลาคมก็ขาดการติดต่อ ลูกชายที่ทำงานอยู่ จ.ปราจีนบุรี ซึ่งปกติก็จะดูกล้องวงจรปิดผ่านสมาร์ทโฟนเป็นประจำ รู้สึกกังวลใจและเป็นห่วงที่ไม่เห็นแม่มาสองวันจึงแจ้งญาติให้เข้ามาดูจนพบเรื่องราวสลดใจดังกล่าว ทำให้เชื่อว่าอาจเป็นการฆ่าชิงทรัพย์จากคนใกล้ชิด

หลังตรวจสอบที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ได้นำร่างส่งชันสูตรทางนิติเวชที่โรงพยาบาลนครพิงค์เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิต ขณะที่ตำรวจอยู่ระหว่างการตรวจสอบทองรูปพรรณและทรัพย์สิน แต่ยังไม่เปิดเผยรายละเอียด ระบุว่าอยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวน


กำลังโหลดความคิดเห็น