พระนครศรีราชา - ตำรวจอยุธยาโชว์จับยาบ้า 3.6 ล้านเม็ด เครือข่ายเจ๊เค้ก เจ้าแม่ยาบ้ารายใหญ่ มูลค่า 37,000,000 บาท โดยลำเลียงยาบ้าจากพื้นที่ตะวันออกเฉียงเหนือ เพื่อนำไปส่งมอบให้นักค้ายาเสพติดภาคกลาง
วันนี้ (13 ต.ค.) ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นายนิวัฒน์ รุ่งสาคร ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พล.ต.ต.ชยานนท์ มีสติ ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา รอง ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดตำรวจภูธรภาค 1 ชุดที่ 3 ร่วมกันแถลงข่าวผลการจับกุมขบวนการค้ายาเสพติดรายใหญ่ได้ในพื้นที่
สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ จำนวน 5 คน คือ นายอาทิตย์ หรือนัน อายุ 33 ปี ทำหน้าที่ โดยสารมากับรถลำเลียงยาเสพติด นายศรัญญู หรือยู อายุ 25 ปี ทำหน้าที่ขับรถลำเลียงยาเสพติด นายอัมรินทร์ หรือเดิ้น อายุ 40 ปี ทำหน้าที่ขับรถสำรวจเส้นทาง นายวิทวัฒน์ หรือต้น อายุ 31 ปี ทำหน้าที่โดยสารมากับรถสำรวจเส้นทาง และนายภาพันธ์ หรือโก๋ อายุ 35 ปี ทำหน้าที่ขับรถสำรวจเส้นทาง พร้อมของกลางยาบ้าจำนวน 3,600,000 เม็ด พร้อมรถยนต์ที่ใช้บรรทุก เป็นรถยนต์กระบะ อีซูซุ สีเทา ใช้ในการขนยาบ้า มาจำนวน 8 กระสอบ รถยนต์อเนกประสงค์ มิตซูบิชิ ปาเจโร่ สีน้ำตาล ใช้สำรวจเส้นทาง และรถยนต์เก๋ง ฮอนด้าซิตี้ สีขาว ใช้สำรวจเส้นทาง
นายนิวัฒน์ รุ่งสาคร ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดตำรวจภูธรภาค 1 ชุดที่ 3 ได้สืบสวนขยายผลจากการจับกุมคดียาเสพติดทุกราย จนนำไปสู่การจับกุมนักค้ายาเสพติด และยาเสพติดจำนวนมาก ทำให้ทราบว่ายาเสพติดที่มีการขนลำเลียงมากระจายในพื้นที่ภาคกลาง เป็นของ น.ส.เจมจิรา หรือเจ๊เค้ก ซึ่งเป็นหัวหน้าทีมลำเลียงยาเสพติดที่ยังหลบหนีอยู่ประเทศเพื่อนบ้าน
มีนายศรัญญู หรือยู นายอาทิตย์ หรือนัน นายอัมรินทร์ หรือเดิ้น นายวิทวัฒน์ หรือต้น และนายวสันต์ ทำหน้าที่ในการลำเลียงยาบ้าจากพื้นที่ตะวันออกเฉียงเหนือ เพื่อนำไปส่งมอบ ให้นักค้ายาเสพติดภาคกลาง จึงได้มีการเฝ้าติดตามพฤติกรรม จนเมื่อวันที่ 12 ตุลาคมที่ผ่านมา พบว่ากลุ่มผู้ต้องหาใช้รถยนต์กระบะ อีซูซุ สีเทา ขนยาเสพติดมา 8 กระสอบ และจะมีรถยนต์อีก 2 คันคอยสำรวจเส้นทาง เมื่อเจอด่านตรวจจะมีการส่งสัญญาณแจ้งหลบเลี่ยงด่านตรวจไปเส้นทางต่างๆ จนพบรถยนต์กระบะที่ใช้ขนยาเสพติดเข้าไปหลบซ่อนตัวอยู่ในโรงพยาบาลบ้านแพรก จึงได้ทำการเข้าจับกุมตัวพร้อมกับยาบ้าจำนวนดังกล่าว
จากนั้นขยายผลไปจับกุมตัวผู้ต้องหาอีกกลุ่มที่เป็นรถสำรวจเส้นทางได้ที่โรงพยาบาลพระนารายณ์มหาราช จ.ลพบุรี เนื่องจากรถยนต์ไปประสบอุบัติเหตุ กลุ่มผู้ต้องหากำลังเข้าไปรักษาตัว และยังมีกลุ่มผู้ต้องหาบางส่วนที่ยังหลบหนีการจับกุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่
ยาบ้าทั้งหมดเมื่อไปถึงมือกลุ่มนักค้ายาเสพติดจะแพร่กระจายไปสู่กลุ่มนักค้ายาบ้ารายย่อย ถ้ากระจายเข้าสู่ท้องตลาดจะมีมูลค่ามากถึง 37,000,000 บาท