xs
xsm
sm
md
lg

(คลิป) เมียแรงงานไทยในอิสราเอลร่ำไห้ เห็นภาพฮามาสถือปืนจ่อหัวผัวจับเป็นตัวประกัน จำรอยสักได้

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ศรีสะเกษ - เมียแรงงานไทยในอิสราเอลร่ำไห้เห็นภาพกลุ่มฮามาสถือปืนจ่อหัวผัวที่โดนจับเป็นตัวประกัน จำรอยสักที่หัวไหล่ทั้งสองข้างของผัวได้ ขณะที่ญาติพี่น้องแห่ปลอบใจ วอนส่วนราชการที่เกี่ยวข้องช่วยเหลือด่วน
วันนี้ (9 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บ้านเลขที่ 132 หมู่ 17 บ้านซำตาวัน ต.หนองหญ้าลาด อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ บรรดาญาติพี่น้องพากันแห่มาปลอบให้กำลังใจ น.ส.กัญญารัตน์ สุริยะศรี อายุ 39 ปี ที่กำลังร่ำไห้น้ำตาไหลอาบแก้ม เนื่องจาก น.ส.กัญญารัตน์ได้เห็นภาพที่ญาติส่งมาให้ เป็นภาพของนายโอวาท สุริยะศรี อายุ 40 ปี สามีของตนเองที่ไปทำงานด้านการเกษตรอยู่ที่ประเทศอิสราเอล แล้วถูกคนร้ายกลุ่มฮามาส 2 คน ใช้อาวุธปืนจ่อใส่ร่างของนายโอวาทกับเพื่อนตัวประกันรวม 4 คน โดยมีข่าวว่ามีแรงงานไทยโดนคนร้ายยิงเสียชีวิตแล้ว 2 ราย เนื่องจากกลุ่มฮามาสโจมตีอิสราเอลอย่างหนัก เหตุเกิดเมื่อวันที่ 7 ต.ค. 66 ที่ผ่านมา ทำให้ น.ส.กัญญารัตน์มีความห่วงใยนายโอวาท สามีของตนเองเป็นอย่างมาก



น.ส.กัญญารัตน์ สุริยะศรี อายุ 39 ปี กล่าวด้วยเสียงสะอึกสะอื้นว่า ตัวประกันแรงงานไทยคนแรกที่ถอดเสื้อนอนคว่ำหน้าอยู่กับพื้นคนแรก ตนจำสามีของตนได้และยืนยันว่าคือนายโอวาท สามีของตน เนื่องจากตนจำรอยสักที่หัวไหล่ทั้งสองข้าง และที่บริเวณแผ่นหลังได้ ตนและนายโอวาทได้แต่งงานกันมานานแล้ว จนกระทั่งได้มีลูกชายด้วยกัน 2 คน อายุ 14 ปี และ 15 ปี ตามลำดับ เมื่อประมาณช่วงเดือน ก.ค. 2564 สามีของตนได้สมัครไปทำงานด้านการเกษตรที่ประเทศอิสราเอลอย่างถูกต้องตามกฎหมาย โดยได้ไปทำงานนาน 2 ปี 2 เดือนแล้ว


ปกติแล้วตนจะคุยกันกับสามีทางเมสเซนเจอร์ จนกระทั่งเมื่อวันที่ 7 ต.ค. 66 นายโอวาทได้ส่งแชตมาบอกตนว่ายิงกันแล้ว จากนั้นตนพยายามติดต่อทั้งโทรศัพท์และทักเมสเซนเจอร์ไปหานายโอวาท สามีของตน แต่ว่าไม่สามารถติดต่อกับสามีของตนได้ และต่อมาทราบข่าวจากสื่อมวลชนว่า เกิดสงครามที่ประเทศอิสราเอล มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตจำนวนมาก ทำให้ตนมีความห่วงใยสามีมาก และพยายามเฝ้าติดตามข่าวความคืบหน้าของสามีอย่างใกล้ชิด


น.ส.กัญญารัตน์กล่าวต่อว่า ต่อมาญาติของตนได้ส่งภาพที่กลุ่มฮามาส 2 คนถือปืนคุมตัวประกันที่นอนถอดเสื้ออยู่กับพื้น ตนจำรอยสักที่หัวไหล่สองข้างและที่ด้านหลังของสามีตนได้ ตนรู้ทันทีว่านายโอวาท สามีของตนโดนจับเป็นตัวประกัน โดยมีคนร้ายเอาปืนจ่อศีรษะคุมอยู่ ตนมีความห่วงใยสามี จึงได้กราบไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์เพื่อขอให้นายโอวาทสามีของตนและเพื่อนแรงงานคนไทยทุกคนปลอดภัยจากเหตุการณ์ครั้งนี้

หากนายโอวาท สามีของตนกลับมาอย่างปลอดภัย จะไม่ยอมให้สามีไปทำงานต่างประเทศอีกอย่างเด็ดขาดแม้ว่าจะมีรายได้ดีมากเพียงใดก็ตาม ตนขอฝากถึงส่วนราชการที่เกี่ยวข้องโปรดพิจารณาหาทางช่วยเหลือสามีของตนเองและเพื่อนแรงงานคนไทยทุกคนให้กลับมาบ้านอย่างปลอดภัยทุกคนอย่างเร่งด่วนด้วย






กำลังโหลดความคิดเห็น