ลำปาง - เหิมกันเกินพิกัด..ตำรวจเร่งแกะรอยล่า “แก๊งซานตาน่า-โจ๋ลำปาง” ขับเก๋งสีขาวปาระเบิดปิงปองนำ ก่อนไล่ยิง 3 วัยรุ่นนั่งเล่นริมน้ำวัง ใกล้ถนนคนเดินกาดกองต้า ย่านท่องเที่ยวและการค้าเมืองรถม้า จนต้องวิ่งหนีตายเข้าบ้านชาวบ้านกันสุดระทึกกลางดึก
ตำรวจสายตรวจรถยนต์ พร้อมกับสายตรวจรถจักรยานยนต์ สภ.เมืองลำปาง ต้องเร่งเดินทางเข้าตรวจสอบพื้นที่บริเวณถนนคนเดินกาดกองต้า กลางดึกที่ผ่านมา (7 ต.ค. 66) หลังได้รับแจ้งเหตุกลุ่มชายวัยรุ่นประมาณ 3 คนถูกแก๊งอันธพาล ตั้งชื่อเรียกกันว่า “แก๊งซานตาน่า” ไล่ยิงและปาระเบิดใส่ จนวิ่งหนีตายเข้าไปขอความช่วยเหลือจากชาวบ้าน
เมื่อไปถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจพบกลุ่มชายวัยรุ่น 3 คน อายุระหว่าง 20-23 ปี เป็นชาวบ้าน ต.พิชัย อ.เมืองลำปาง กำลังหลบซ่อนตัวอยู่ภายในบ้านของชาวบ้านหลังหนึ่งใกล้กับสะพาน วัดเกาะวาลุการาม
สอบถามเบื้องต้นทราบว่าก่อนเกิดเหตุทั้ง 3 ได้ไปนั่งเล่นอยู่บริเวณริมน้ำวังใกล้กับถนนคนเดินกาดกองต้า ต่อมาได้มีแก๊งวัยรุ่นที่ตั้งชื่อเรียกกันเองว่า “แก๊งซานตาน่า” ขับรถยนต์เก๋งมาตามถนนเลียบลำน้ำวัง แล้วเข้ามาหาเรื่องกลุ่มตนเอง โดยครั้งแรกนั้นถูกวัยรุ่นที่ขับรถเก๋งมาปาระเบิดปิงปองใส่ก่อน 1 ลูก หลังจากนั้นใช้อาวุธปืนยิงมาอีก 1 นัด ก่อนที่ชายหลายคนจะวิ่งเข้ามา หวังจะทำร้ายอีก
เมื่อทั้ง 3 คนเห็นว่าสถานการณ์ไม่ดีแล้ว จึงพากันวิ่งหนีเพราะกลัวตาย ระหว่างนั้นมี 1 คนได้ล้มลงจนแข้งขา มือ ถลอกเลือดไหล หลังจากนั้นพอตั้งสติตั้งตัวได้จึงวิ่งไปขอความช่วยเหลือและขอหลบที่บ้านของชาวบ้านใกล้ๆ กับกาดกองต้าดังกล่าว และใช้เวลาหลบซ่อนตัวอยู่เกือบ 1 ชั่วโมง จึงขอให้ชาวบ้านแถวนั้นโทรศัพท์แจ้งตำรวจ สภ.เมืองลำปาง เข้ามาช่วยเหลือ
กลุ่มวัยรุ่นคนหนึ่ง เป็นนักศึกษาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง เล่าว่า ระหว่างมานั่งบริเวณริมแม่น้ำวัง ก็ถูกแก๊งวัยรุ่นชื่อแก๊ง Santana หลายคน ซึ่งนั่งดื่มสุราและเบียร์อยู่บริเวณลานออกกำลังกาย ใกล้เวทีริมน้ำวัง-ใกล้ๆ กาดกองต้า ได้เข้ามาหาเรื่องพวกตน และมีวัยรุ่นอีกคนขับรถยนต์เก๋งสีขาวไม่ทราบยี่ห้อ-ทะเบียน เข้ามาปาระเบิดปิงปองใส่ 1 ครั้งและใช้อาวุธปืนยิงเข้ามา 1 นัด ซึ่งหลังจากนั้นพวกตนทั้ง 3 คนก็พากันวิ่งหนีตายดังกล่าว
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้แนะนำให้กลุ่มวัยรุ่นทั้ง 3 คนไปแจ้งความที่ สภ.เมืองลำปาง และนำผู้ได้รับบาดเจ็บจากการวิ่งหนีตายไปตรวจและรักษาบาดแผลที่โรงพยาบาลลำปางต่อไป พร้อมกับได้เร่งติดตามภาพกล้องวงจรปิดหาเบาะแสรถยนต์เก๋งที่ถูกใช้เป็นพาหนะก่อเหตุ เพื่อจะได้นำตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป