ระยอง - อย่าหาทำ! แม่ค้าขายน้ำสุดแสบวางตะปูล้อรถยนต์เก๋งที่จอดหน้าร้านริมถนน แถมให้สามีดูลาดเลา อ้างฉุนจอดทำต้องยกน้ำไกลจนเหนื่อย ครั้งแรกไม่ยอมรับแต่สุดท้ายจำนนต่อหลักฐานเป็นคลิปภาพจากกล้องวงจรปิด ถึงขั้นยกมือไหว้ทั้งน้ำตาสัญญาไม่ทำอีก
เมื่อเวลา 16.00 น.วันนี้ (7 ต.ค.) นายชุมพล ขงขันมณีเวช อายุ 48 ปี ชาว อ.บ้านค่าย จ.ระยอง ได้นำตะปูของกลางเข้าแจ้งความต่อ พ.ต.ต.ธราดล วงศ์เจริญยศ สว.(สอบสวน) สภ.เมือง ระยอง เพื่อให้ดำเนินคดี น.ส.วิราภรณ์ บัวเจริญ อายุ 30 ปี เจ้าของร้านขายน้ำดื่ม 333 โค้งระยองราม่า ถ.สุขุมวิท ต.ท่าประดู่ อ.เมืองระยอง หลังได้นำตะปูมาวางไว้ที่ลัอรถยนต์ของตนเองที่จอดอยู่ริมถนนหน้าร้านของผู้ก่อเหตุ
นอกจากนั้น ยังได้นำภาพจากกล้องวงจรปิดบริเวณจุดเกิดเหตุที่บันทึกภาพขณะที่ น.ส.วราภรณ์ ที่ได้นำตะปูมาวางใต้ล้อหลังซ้ายของรถยนต์เก๋งสีขาว ยี่ห้อฮอนด้า หมายเลขทะเบียน 3 ขพ 5942 กรุงเทพมหานคร โดยมีสามียืนดูลาดเลา กระทั่งตนเดินกลับมาที่รถและได้ดึงตะปูออกจนเกิดการโต้เถียงกันขึ้น
นายชุมพล เผยว่า ก่อนเกิดเหตุตนได้ขับรถมารับประทานก๋วยเตี๋ยวที่บริเวณดังกล่าวและได้จอดรถหน้าร้านขายน้ำดื่มของผู้ก่อเหตุ พร้อมยืนยันว่าตนเองได้ตรวจสอบแล้วว่าเป็นพื้นที่สาธารณะที่สามารถจอดรถได้
"ตอนจอดเสร็จเห็นแล้วว่าผู้ก่อเหตุมองด้วยความไม่พอใจ แต่ไม่คิดอะไรเพราะจอดไม่นานและเมื่อกลับมาที่รถพบว่ามีตะปูวางอยู่ที่ล้อหลังด้านซ้ายเมื่อ พยายามสอบถามผู้ก่อเหตุก็ถูกปฏิเสธ จึงไปขอดูกล้องวงจรปิดบริเวณใกล้ที่เกิดเหตุจึงทำให้ 2 สามีภรรยาเจ้าของร้านขายน้ำยอมจำนนต่อหลักฐาน จึงเข้าแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อให้ผู้ก่อเหตุมาคุยกัน ไม่เช่นนั้นจะดำเนินคดี สุดท้ายจึงยอมตามมา"
นายชุมพล ยังกล่าวอีกว่า สาเหตุที่ต้องแจ้งความดำเนินคดีผู้ก่อเหตุ เพราะการกระทำดังกล่าวอาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุจนถึงขั้นเสียชีวิตได้ ที่สำคัญผู้ก่อเหตุมีลูกอยู่ภายในบ้านที่เมื่อเห็นการกระทำของพ่อแม่อาจคิดได้ว่าเป็นเรื่องที่ถูกต้อง และเมื่อโตไปอาจะทำแบบเดียวกันได้
โดยเหตุการณ์ในครั้งนี้ตนจะไม่ขอเอาเรื่อง และไม่เรียกร้องค่าเสียหาย เพียงแต่ต้องการให้ผู้ก่อเหตุสัญญาว่าจะไม่ก่อเหตุอีกเท่านั้น
ด้าน น.ส.วราภรณ์ ผู้ก่อเหตุได้ยอมรับทั้งน้ำตาว่าเป็นผู้วางตะปูใต้ล้อรถจริง โดยอ้างว่าสาเหตุที่เพราะความเครียดจากการที่มีรถจอดหน้าร้านเพราะทำให้ตกยกน้ำดื่มไปส่งลูกค้าไกลจนทำให้เหนื่อย และยังได้ขอโทษผู้เสียหายและรับปากว่าจะไม่กระทำการในลักษณะดังกล่าวอีก พร้อมยกมือไหว้ขอโทษเจ้าของรถ
เบืัองต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน พร้อมตักเตือนผู้ก่อเหตุว่ากรณีที่เกิดขึ้นมีโทษอาญา ส่วนผู้ใดที่มีบ้านอยู่ริมถนนหลวงหากไม่ใช่พื้นที่ห้ามจอดเจ้าของบ้านไม่สามารถขัดขวางหรือนำสิ่งของมาขวางกั้นเพื่อห้ามผู้อื่นมิให้จอดรถได้ เนื่องจากถือเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย