ราชบุรี - ธ.ก.ส.ดำเนินการพักชำระหนี้ลูกค้ารายย่อยตามนโยบายรัฐบาล จัดช่องทางอำนวยความสะดวกผ่าน BAAC Mobile เดินหน้ามาตรการพักชำระหนี้ลูกหนี้รายย่อยสัญญารวมกันไม่เกิน 300,000 บาท ทั้งต้นและดอก
วันนี้ (6 ต.ค.) ที่อาคารอเนกประสงค์ อบต.ดอนกรวย อ.ดำเนินสะดวก จ.ราชบุรี จ.อ.สุพร บุญสิริชูโต รองผู้อำนวยการฝ่ายกิจการสาขาภาคตะวันตก ประธานเปิดให้บริการพักชำระหนี้ลูกหนี้รายย่อย โดยมี นางปาณิสรา ผิวนวล ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายกิจการสาขาภาคตะวันตก นางรัตนาภรณ์ วิภูษณะวรรณ ผู้อำนวยการสำนักงาน ธ.ก.ส.จังหวัดราชบุรี นายภัตติ ชุนทรภัทร์โภคิน ผู้ช่วยผู้อำนวยการสำนักงาน ธ.ก.ส.จังหวัดราชบุรี นำทีมเจ้าหน้าที่มาให้บริการอำนวยความสะดวกให้ลูกค้าที่มีต้นเงินคงเป็นหนี้ทุกสัญญารวมกันไม่เกิน 300,000 บาท มีลูกหนี้ที่สามารถเข้าร่วมมาตรการ สามารถเปิดให้ตรวจสอบสิทธิ และแจ้งความประสงค์เข้าร่วมมาตรการผ่านแอปพลิเคชันของ ธ.ก.ส. "BAAC Mobile"
เพื่อความสะดวกในการรองรับบริการและลดความคับคั่งที่สาขา พร้อมร่วมเครือข่ายภาครัฐ เอกชน สถาบันการศึกษา เติมเต็มองค์ความรู้พัฒนาและต่อยอดผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร เพื่อเพิ่มศักยภาพและฟื้นฟูลูกหนี้ผู้เข้าร่วมมาตรการ ภายใต้หลักการ "ตลาดนำ นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้" และเติมสินเชื่อเสริมสภาพคล่องในการประกอบอาชีพ วงเงินไม่เกิน 100,000 บาท เพื่อส่งเสริมและฟื้นฟูการประกอบอาชีพให้มีรายได้เพิ่มขึ้นในระหว่างการพักชำระหนี้ เข้าไปใช้บริการที่สาขา ธ.ก.ส. ได้จัดวางระบบให้เกษตรกรลูกค้าแจ้งความประสงค์เข้าร่วมมาตรการพักชำระหนี้ผ่านแอปพลิเคชัน BAAC Mobile
โดยใช้หมายเลขบัตรประจำตัวประชาชนของผู้แสดงความประสงค์ พร้อมหมายเลขโทรศัพท์ที่สามารถติดต่อได้ จากนั้นระบบจะมีการประมวลข้อมูลตรวจสอบคุณสมบัติ หากเข้าเกณฑ์ผู้มีคุณสมบัติตามมาตรการ ธ.ก.ส. จะนัดหมายลูกค้าและผู้ค้ำประกันไปที่สาขาหรือจุดบริการที่นัดหมาย เพื่อจัดทำเอกสารที่เกี่ยวข้องโดยแจ้งความประสงค์ได้ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2566 จนถึง 31 มกราคม 2567 รวม 4 เดือน
อย่างไรก็ตาม ในกรณีที่เกษตรกรไม่สะดวก สามารถติดต่อแจ้งความประสงค์เข้าร่วมมาตรการที่สาขาใกล้บ้านทั่วประเทศ ซึ่งพนักงานจะอำนวยความสะดวกในการแจ้งความประสงค์ผ่าน BAAC Mobile เพื่อเข้าสู่ระบบการประมวลผลและตรวจสอบสิทธิเช่นเดียวกัน นอกจากการพักชำระหนี้ลูกหนี้รายย่อย รัฐบาลยังให้ความสำคัญกับภารกิจในการช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนลดภาระหนี้สินเกษตรกรรายย่อยและเพิ่มรายได้เกษตรกร โดยในระหว่างการพักชำระหนี้ ธ.ก.ส. ได้กำหนดแนวทางการพัฒนาอาชีพ ทั้งอาชีพเดิม อาชีพเสริม และอาชีพใหม่ ภายใต้แนวทาง "ตลาดนำ นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้ใหม่" โดยร่วมมือกับส่วนงานภายนอกทั้งภาครัฐ เอกชน สถาบันการศึกษา
เพื่อสนับสนุนให้เกษตรกรนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีไปใช้เพิ่มมูลค่าผลผลิต การลดต้นทุน การปรับปรุงพัฒนารูปแบบผลิตภัณฑ์ไปสู่ตลาดที่มีกำลังชื้อสูง เพื่อสร้างรายได้ เป้าหมายเกษตรกร 300,000 คนต่อปี เช่น การส่งเสริมการปลูกผักระยะสั้น ที่ส่งจำหน่ายไปยังโรงแรมหรือโรงพยาบาลในพื้นที่ ซึ่งช่วยส่งเสริมการบริโภคท้องถิ่น พร้อมเตรียมผลิตภัณฑ์สินเชื่อที่เหมาะสมในการพื้นฟูการประกอบอาชีพ วงเงินสูงสุดไม่เกิน 100,000 บาท ในการจัดหาปัจจัยการผลิต เพื่อให้เกษตรกรสามารถยืนได้อย่างมั่นคง หลังการพักชำระหนี้ลูกหนี้ที่ประสงค์จะออกจากการเข้าร่วมมาตรการจะต้องแจ้งความประสงค์ต่อ ธ.ก.ส.
โดยมีเงื่อนไขดังนี้ ต้องเป็นลูกหนี้ที่เข้าร่วมมาตรการมาแล้วอย่างน้อย 1 ปี โดยลูกหนี้ที่ประสงค์จะใช้บริการสินเชื่อตามปกติกับ ธ.ก.ส.โดยก่อนการยื่นขอสินเชื่อ จะต้องสละสิทธิการเข้าร่วมมาตรการ ซึ่งจะได้รับการพิจารณาวงเงินตามศักยภาพ และกรณีลูกหนี้ไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขของมาตรการ เช่น การไม่เข้าร่วมการประเมินศักยภาพและความสามารถในการชำระหนี้ประจำปี หรือไม่เข้าร่วมการอบรมและฟื้นฟูการประกอบอาชีพที่ ธ.ก.ส. กำหนด หรือก่อภาระหนี้เพิ่มขึ้นกับสถาบันการเงินอื่นระหว่างเข้าร่วมมาตรการ ธ.ก.ส. จะพิจารณาให้ออกจากมาตรการดังกล่าว
นางรัตนาภรณ์ วิภูษณะวรรณ กล่าวว่า สำนักงาน ธ.ก.ส.จังหวัดราชบุรี และสาขาในสังกัดทั้ง 9 สาขาในเขตพื้นที่ดำเนินงานนั้นมีความพร้อมที่จะอำนวยความสะดวกให้เกษตรกรลูกค้าในการแจ้งความประสงค์เข้าร่วมมาตรการพักชำระหนี้ ผ่านแอปพลิเคชัน BAAC Mobile สิ่งที่อยากฝากย้ำเกษตรกรและบุคคลที่จะเข้าร่วมมาตรการคือ ขอให้ระวังมิจฉาชีพที่อาจใช้โอกาสนี้นำเรื่องพักชำระหนี้ไปหลอกลวงในรูปแบบต่างๆ โดยอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ไปติดต่ออำนวยความสะดวก หรือหลอกลวงให้กดลิงก์ต่างๆ แบบอัตโนมัติ จึงขอให้ลูกค้าทุกท่านศึกษาข้อมูลการดาวน์โหลดและใช้งานแอปพลิเคชัน BAAC Mobile ได้บนระบบ IOS และ Android ผ่านทาง App store และ Play store เท่านั้น หรือสอบถามข้อมูลอื่นๆ ได้ที่ Call Center 0-2555-0555 หรือสาขาทั่วประเทศ