xs
xsm
sm
md
lg

ธุรกิจท่องเที่ยวเชียงใหม่เชื่อมั่นฟรีวีซ่าจูงใจกระตุ้นยอด นทท.พุ่ง-คาดเห็นผลชัดเจนตั้งแต่ พ.ย. 66

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เชียงใหม่ - นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวเชียงใหม่ชี้มาตรการฟรีวีซ่า นทท.จีนและคาซัคสถานส่งผลดีช่วยกระตุ้นการท่องเที่ยวอย่างแน่นอน แต่ระบุตั้งแต่ช่วง พ.ย. 66 เป็นต้นไปจึงจะเริ่มเห็นเพิ่มขึ้นจริงจัง ทั้งสายการบินและนักท่องเที่ยว ขณะที่ ททท.เชื่อยอดนักท่องเที่ยวจีนเยือนเชียงใหม่ตลอดทั้งปีเพิ่มขึ้นอีก 20-30% จากเดิมที่คาดไว้ 1 ล้านคนเศษ ทำเงินสะพัด 2 แสนล้านบาท


นายศุภมิตร กิจจาพิพัฒน์ นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวถึงคณะรัฐมนตรีเห็นชอบมาตรการฟรีวีซ่าสำหรับนักท่องเที่ยวจีนและคาซัคสถาน โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 25 ก.ย. 66 เป็นต้นไประยะเวลารวม 5 เดือนว่า มาตรการฟรีวีซ่าดังกล่าวนี้จะช่วยกระตุ้นการท่องเที่ยวอย่างแน่นอน เพราะเป็นปัจจัยที่สร้างแรงจูงใจให้นักท่องเที่ยวกลุ่มเป้าหมายดังกล่าวเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวประเทศไทยมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ต้องยอมรับว่ามาตรการนี้น่าจะเริ่มเห็นผลชัดเจนจริงจังตั้งแต่ช่วงเดือน พ.ย. 66 เป็นต้นไป เนื่องจากในช่วงแรกยังต้องรอสายการบินต่างๆ ดำเนินการในเรื่องของการเปิดเส้นทางบินใหม่หรือกลับมาทำการบินในเส้นทางบินเดิมมายังเชียงใหม่ ซึ่งต้องใช้เวลา ทำให้ในช่วงเดือน ต.ค. 66 สายการบินและเที่ยวบินยังมีเท่าเดิม แต่ปริมาณผู้โดยสารที่เป็นนักท่องเที่ยวจะเพิ่มมากขึ้น ขณะที่ตั้งแต่เดือน พ.ย. 66 เป็นต้นไป ปริมาณจะเพิ่มขึ้นทั้งสายการบินและนักท่องเที่ยว

รายงานข่าวแจ้งว่า จากมาตรการฟรีวีซ่าดังกล่าวทำให้ภาคการท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงใหม่ต่างเตรียมพร้อมการรองรับกลุ่มนักท่องเที่ยวที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นในช่วงไฮซีซันที่กำลังจะมาถึงนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวจีนที่จะเดินทางมาเยือนจังหวัดเชียงใหม่ โดยจากข้อมูลของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานจังหวัดเชียงใหม่คาดว่าจากมาตรการฟรีวีซ่าดังกล่าวนี้จะส่งผลดีทำให้มีนักท่องเที่ยวจีนเดินทางเข้าสู่จังหวัดเชียงใหม่เพิ่มอีก 30,000 คน ในช่วงเดือน ก.ย.-ธ.ค. 66 จากเป้าหมายเดิมที่คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวจีนเดินทางเข้ามา 250,000 คน ขณะเดียวกัน ททท.คาดการณ์จากมาตรการนี้จะส่งผลดีทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวจีนที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่เพิ่มขึ้นร้อยละ 20-30 จากเดิมที่คาดการณ์ว่าตลอดทั้งปี 2566 จะมีจำนวนทั้งสิ้นประมาณ 1 ล้านคนเศษ ทั้งนี้คาดว่าจะทำให้เกิดเม็ดเงินสะพัดไม่น้อยกว่า 200,000 ล้านบาท








กำลังโหลดความคิดเห็น