ศูนย์ข่าวขอนแก่น - บุกค้นบ้านพัก พ.ต.อ.ภาคภูมิ พิสมัย รองผู้บังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวน ตำรวจภูธรภาค 4 ลูกน้องคนสนิทบิ๊กโจ๊ก แต่ยังไม่พบ ขณะที่ร้านกาแฟที่เปิดให้ลูกสาวในเขตเทศบาลนครขอนแก่น ขึ้นป้ายแจ้งปิดบริการเป็นเวลา 2 วัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่ตำรวจไซเบอร์จู่โจมตรวจค้นบ้านบิ๊กโจ๊ก พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ. ตร. พร้อมเครือข่าย พลเรือนและเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มีส่วนเชื่อมโยงกับบิ๊กโจ๊ก โดยแยกเป็นพลเรือน 15 ราย และตำรวจ 8 นาย ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ พ.ต.อ.ภาคภูมิ พิสมัย รองผู้บังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวน ตำรวจภูธรภาค 4 ลูกน้องคนสนิทของบิ๊กโจ๊ก
ในช่วงเช้าตำรวจได้ตรวจค้นบ้านพักของ พ.ต.อ.ภาคภูมิ ในพื้นที่ตำบลเมืองเก่า และในเขตเทศบาลนครขอนแก่น แต่ยังไม่พบตัว พ.ต.อ.ภาคภูมิ พิสมัย โดยเฉพาะที่ร้านคาเฟ่ ที่เปิดให้ลูกสาวภายในเขตเทศบาลนครขอนแก่น ได้มีการปิดป้ายปิดร้านเป็นเวลา 2 วัน และภายในร้านไม่พบพนักงานแต่อย่างใด
ทั้งนี้ พ.ต.อ.ภาคภูมิ พิสมัย จบหลักสูตรโรงเรียนนายร้อยตำรวจ รุ่นที่ 52 เติบโตมาในสายงานสืบสวนและปราบปรามยาเสพติด โดยรับราชการครั้งแรกที่กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด เมื่อปี 2542 จากนั้นได้ย้ายไปสังกัดตำรวจภูธรภาค 1 และกองบัญชาการตำรวจนครบาล ในตำแหน่งรองสารวัตรจราจร ในปี 2544 กระทั่งปี 2549 ได้รับการแต่งตั้งดำรงตำแหน่งสารวัตรหัวหน้าหน่วยปฏิบัติการพิเศษ ตำรวจภูธร จ.ขอนแก่น เป็นหัวหน้าชุดปราบปรามยาเสพติด ตำรวจภูธร จ.ขอนแก่น
ตำแหน่งปัจจุบันคือ รองผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน ตำรวจภูธรภาค 4 (บก.สส.ภ.4 บช.ภ.4) และเป็นขุนพลคู่ใจ “บิ๊กโจ๊ก” ล่าสุดได้รับมอบหมายให้สืบสวน คลี่คลายคดีลูกน้องกำนันนกยิง “สารวัตรศิว” พ.ต.ต.ศิวกร สายบัว สารวัตรสถานีตำรวจทางหลวง 1 กองกำกับการ 2 กองบังคับการตำรวจทางหลวงเสียชีวิต
ทั้งผลงานที่ผ่านมา เคยทำคดีดังอีกหลายคดี โดยเฉพาะคดีฆ่าหั่นศพในพื้นที่ อ.เขาสวนกวาง เมื่อปี 2560 โดยขณะนั้นดำรงตำแหน่ง ผกก.สภ.เขาสวนกวาง ซึ่งได้โชว์ฝีมือในการไล่ล่าผู้ต้องหา ซึ่งมีความคืบหน้าต่อเนื่องจนสามารถจับกุมได้ทั้งหมด และเริ่มเดินเคียงบ่าเคียงไหล่บิ๊กโจ๊กลงพื้นที่ทำงานหลายคดี จนกระทั่งถูกออกหมายจับ และยังไม่สามารถติดต่อได้