ศูนย์ข่าวศรีราชา - พัทยาเสียงแตก มาตรการ Free Visa นักท่องเที่ยวจีน-คาซัคสถาน ผอ.ททท.พัทยา เชื่อจะทำให้มีการเดินทางเข้าพื้นที่มากขึ้น แต่ผู้ประกอบการโรงแรมชี้ยังไม่ส่งผลดี เหตุเมืองพัทยา ไม่มีสายการบินตรงเช่นเมืองท่องเที่ยวใหญ่ ส่วนสนามบินอู่ตะเภายังเปิดใช้ไม่เต็มที่
จากกรณีที่รัฐบาลได้มีมติเปิดฟรีวีซ่าให้กลุ่มนักท่องเที่ยวชาวจีน และนักท่องเที่ยวจากสาธารณรัฐคาซัคสถาน ที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยเป็นเวลาไม่เกิน 30 วันเป็นกรณีพิเศษเพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวนั้น
วันนี้ (20 ก.ย.) น.ส.อโนมา วงษ์ใหญ่ ผู้อำนวยการสำนักงาน ททท.พัทยา ได้ออกมาเปิดเผยว่ามาตรการดังกล่าวถือเป็นเรื่องดีที่จะช่วยส่งเสริมให้นักท่องเที่ยวทั้ง 2 ประเทศเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย รวมไปถึงเมืองพัทยาเพิ่มมากขึ้น โดยนักท่องเที่ยวจีนถือเป็นนักท่องเที่ยวหลักของประเทศไทยรวมถึงเมืองพัทยา ซึ่งตั้งแต่ก่อนเกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 นักท่องเที่ยวจีนเดินทางเข้ามาในประเทศไทยสูงเป็นอันดับ 1 หรือประมาณกว่า 2 ล้านคน
"แต่ปัจจุบันนักท่องเที่ยวจีนที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในเมืองพัทยา ส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่ม FIT หรือผู้ที่มาท่องเที่ยวเป็นการส่วนตัว ส่วนนักท่องเที่ยวกลุ่มใหญ่ยังมีอุปสรรคในเรื่องการขอวีซ่า ดังนั้นเมื่อรัฐบาลประกาศยกเลิกวีซ่าให้นักท่องเที่ยวกลุ่มนี้จะส่งผลให้มีการตัดสินใจเดินทางเข้ามาในประเทศไทยง่าย และรวดเร็วขึ้น และจะส่งผลให้นักท่องเที่ยวเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยสูงตามไปด้วย"
ผู้อำนวยการสำนักงาน ททท. พัทยา ยังเผยอีกว่า ส่วนใหญ่นักท่องเที่ยวจีนที่เดินทางเข้ามากรุงเทพฯ มักจะมีแผนเดินทางมาท่องเที่ยวต่อที่เมืองพัทยา ส่วนนักท่องเที่ยวคาซัคสถานจะหนีความหนาวเย็นเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย
และหากเปรียบเทียบตัวเลขการเดินทางเข้ามาของนักท่องเที่ยกลุ่มนี้ก่อนสถานการณ์โควิด-19 ที่มียอดการเดินทางเข้ามาปีละมากกว่าหมื่นคน กับตัวเลขการเดินทางเข้ามาในช่วงนี้ที่มีมากกว่า 1 แสนคน ทำให้เห็นแนวโน้มการเติบโตของนักท่องเที่ยวชาวคาซัคสถานได้เป็นอย่างดี
ที่สำคัญในอนาคตหากมีเที่ยวบินเดินทางมา กทม. หรือสนามบินอู่ตะเภามากขึ้นจะทำให้มีนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเมืองพัทยา เพิ่มมากยิ่งขึ้นด้วยเช่นกัน
"นักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาในเมืองพัทยาขณะนี้ยังคงเป็นกลุ่มประชุมสัมมนา หรือกลุ่มบริษัทที่พาพนักงานมาพักผ่อนโดยเฉพาะในช่วงเดือน มิ.ย.-ส.ค. ขณะที่กลุ่มผู้ประกอบการกรุ๊ปทัวร์ต่างๆ ล้วนเห็นด้วยที่รัฐบาลยกเลิกวีซ่า แต่ยังอยู่ในช่วงแรกที่จะทดสอบว่าจะช่วยกระตุ้นให้มีการเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศได้มากน้อยเพียงใด อย่างไรก็ตาม อยากให้กรณีนี้ประสบความสำเร็จตั้งแต่เฟสแรก ที่จะส่งผลให้มีเฟสต่อไป" ผู้อำนวยการสำนักงาน ททท.พัทยา กล่าว
ผู้ประกอบการโรงแรมเผยมาตรการ Free Visa จีน-คาซัคสถาน ยังไม่ส่งผลดีต่อการท่องเที่ยวพัทยา
ด้าน น.ส.พัชร์ศณัสม์ อัศวชัยโสภณ รองกรรมการผู้จัดการ โรงแรมแกรนด์จอมเทียน พาเลซ พัทยา เผยถึงนโยบายยกเลิกการทำวีซ่าในกลุ่มนักท่องเที่ยวจากประเทศจีนและคาซัคสถานเป็นการชั่วคราวว่า เพื่อต้องดึงดูดและกระตุ้นความสนใจทางการท่องเที่ยวของไทย แต่ในส่วนของเมืองพัทยาแล้วตนมองว่ายังไม่ส่งผลดีมากนัก เพราะขณะนี้เมืองพัทยาไม่ได้อยู่ในความนิยมของนักท่องเที่ยวจีนเหมือนในอดีตแล้ว และอันดับความนิยมยังหลุดจากอันดับ 1-3 เป็นที่เรียบร้อย
"แต่ยังโชคดีที่มีนักท่องเที่ยวจากคาซัคสถาน ที่ให้ความสนใจเมืองพัทยาเป็นอันดับต้นๆ ส่วนนักท่องเที่ยวรัสเซียนั้นจากข้อมูลที่เอเยนต์ทัวร์ให้มาทราบว่าปัจจุบันยังมีจำนวนไม่มากนัก เพราะนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ประสบปัญหาเรื่องของค่าเงินรูเบิล ที่ปรับตัวสูงจนส่งผลให้ค่าใช้จ่ายในการเดินทางหรือการจับจ่ายสูงขึ้นตามไปด้วย ซึ่งในเรื่องนี้ผู้ประกอบการเองต้องปรับราคาใหม่เพื่อสร้างแรงดึงดูดให้เพิ่มมากขึ้นด้วย"
เช่นเดียวกับยอดจองห้องพักในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยว หรือ High Season ของเมืองพัทยานั้น พบว่ายอดยังไม่สูงหรือเข้าตามเป้าหมายเหมือนในอดีต โดยส่วนใหญ่จะเป็นนักท่องเที่ยวประเทศรัสเซีย ยังชี้ชัดไม่ได้และต้องรอดูสถานการณ์เดือน ต.ค.ที่จะถึงนี้ก่อน
"ส่วนนักท่องเที่ยวต่างชาตินั้นพบว่าส่วนใหญ่ได้หายไปหรือย้ายพื้นที่ท่องเที่ยวจากเมืองพัทยาเกือบทั้งหมดแล้ว จะมีเพียงกลุ่ม FIT หรือกลุ่มที่มาส่วนตัวเท่านั้นที่จะเน้นเข้าพักในโรงแรมระดับ 5 ดาว หรือพูลวิลล่าเป็นหลัก ส่วนโรงแรมระดับ 4 ดาวลงมายังไม่ได้รับการตอบรับที่ดีแต่อย่างใด" น.ส.พัชร์ศณัสม์ กล่าว
ทั้งนี้ สิ่งที่เมืองพัทยาเทียบไม่ได้กับเมืองท่องเที่ยวอื่นๆ อย่างภูเก็ต กทม. หรือเชียงใหม่ คือเรื่องสนามบินที่ทำให้มีเที่ยวบินบินตรงมาลงได้ซึ่งทำให้เกิดความสะดวกสบายในการเดินทาง ขณะที่เมืองพัทยาต้องรอนักท่องเที่ยวจากสุวรรณภูมิ เพราะสนามบินอู่ตะเภายังไม่เปิดให้บริการอย่างเต็มรูปแบบ"