ศูนย์ข่าวศรีราชา - ท่าเรือแหลมฉบัง การท่าเรือแห่งประเทศไทย จัดพิธีมอบเงินค่าชดเชยเยียวยาให้กลุ่มประมงเรือเล็ก และ กลุ่มผู้เพาะเลี้ยงหอยแมลงภู่ ที่ได้รับผลกระทบจากโครงการก่อสร้างท่าเรือแหลมฉบัง ขั้นที่ 3 ปี งบประมาณ 2566 กว่า 200 ล้านบาท ต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 จาก ทั้งหมด 6 ปี
วันนี้ (19 ก.ย.) นายพิสิษฐ สิริสวัสดินุกูล นายอำเภอบางละมุง นายวีรยุทธ์ สว่างแจ้ง รองผู้อานวยการท่าเรือแหลมฉบัง ร่วมเป็นประธานในพิธีมอบเงินค่าชดเชยเยียวยาให้กลุ่มประมงเรือเล็กที่ได้รับผลกระทบจากโครงการก่อสร้างท่าเรือแหลมฉบัง ขั้นที่ 3 ปีงบประมาณ 2566 โดยมี นางสิริมา กีรตยาคม นักบริหาร 14 ประจำผู้อำนวยการการท่าเรือแห่งประเทศไทย นายวีรชาติ พุทธรักษา ผู้ช่วยผู้อำนวยการท่าเรือแหลมฉบัง ว่าที่ร้อยตรีจเรวัฒน์ ชินวัฒน์ นายกเทศมนตรีตำบลบางละมุง นางพรทิพา ทวีนุช ผู้อำนวยการกองบริหารงานทั่วไป นายเทียนชัย มักเที่ยงตรง ผู้อำนวยการสำนักบริหารงานสนับสนุน คณะทำงานพิจารณาข้อมูลผู้ที่ไดรับผลกระทบจากโครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบังขั้นที่ 3 ผู้นำชุมชน และผู้ที่ได้รับผลกระทบ ร่วมพิธีมอบเงิน ณ ห้องแตรทอง 1 ศูนย์สวัสดิการท่าเรือแหลมฉบัง
นายวีรยุทธ์ กล่าวว่า การท่าเรือแห่งประเทศไทย มีนโยบายการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง ตามที่คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติโครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง ขั้นที่ 3 เพื่อเพิ่มขีดความสามารถของท่าเรือแหลมฉบังในการรองรับเรือตู้สินค้าระหว่างประเทศ และเป็นการเพิ่มศักยภาพในการให้บริการ การขนส่งสินค้าทางทะเล โดยมีการดำเนินการตามมาตรการในรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม สุขภาพ อนามัย คุณภาพชีวิตของประชาชนอย่างรุนแรง โครงการก่อสร้างท่าเรือแหลมฉบัง ขั้นที่ 3 (EHIA) ที่กำหนดให้มีการจ่ายค่าชดเชยเยียวยาให้กลุ่มประมงผู้ที่ได้รับผลกระทบจากโครงการต่อเนื่องทั้งหมด 6 ปี โดยปีนี้เป็นปีที่ 3 แล้ว
สำหรับการมอบเงินค่าชดเชยเยียวยาให้กลุ่มประมงเรือเล็ก และกลุ่มผู้เพาะเลี้ยงหอยแมลงภู่ เป็นเงินรวมทั้งสิ้น 205,765,977 บาท ประกอบด้วย 1.กลุ่มประมงเรือเล็กจำนวน 284 ราย ประกอบด้วย กลุ่มประมงเทศบาลตําบลบางละมุง กลุ่มประมงอนุรักษ์ปากคลอง บางละมุง กลุ่มประมงบ้านบางละมุง กลุ่มประมงบ้านแหลมฉบัง กลุ่มประมง บ้านโรงโป๊ะ หมู่ที่ 3 และกลุ่มประมงบ้านนําเกลือ รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 124,685,399 บาท 2.กลุ่มผู้เพาะเลี้ยงหอยแมลงภู่ จำนวน 96 ราย ประกอบด้วย กลุ่มประมงอนุรักษ์ปากคลองบางละมุง และกลุ่มประมงบ้านบางละมุง รวมเป็นเงิน 81,080,578 บาท
นายวีรยุทธ์ กล่าวอีกว่า ในฐานะผู้แทนการท่าเรือแห่งประเทศไทย ท่าเรือแหลมฉบังขอขอบคุณทุกภาคส่วนที่ร่วมกันพัฒนาท่าเรือแหลมฉบังจนประสบความสำเร็จในทุกวันนี้ โดยท่าเรือแหลมฉบังมิได้มุ่งเน้นเรื่องการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบังเพื่อขับเคลื่อน เศรษฐกิจเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ท่าเรือแหลมฉบัง ยังเล็งเห็นถึงความสำคัญของการอยู่ร่วมกันอย่างยั่งยืน ด้วยความรับผิดชอบ ใส่ใจต่อสังคม สิ่งแวดล้อม และผู้ที่ได้รับผลกระทบจากโครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง ขั้นที่ 3 ที่เปรียบเสมือนคนในครอบครัว ดังคำที่ว่า “การท่าเรืออยู่ได้ ประชาชนก็ต้องอยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุขและยั่งยืน”