อุดรธานี -"เปิดวินาทีผู้ใหญ่บ้านและกู้ภัยเมธาช่วยคุณตาวัย 70 กว่าปีออกจากบ้าน หลังน้ำจากห้วยหลวงไหลทะลักท่วมบ้านและพื้นที่การเกษตร อย่างไรก็ตามล่าสุดมีรายงานว่าน้ำในเขื่อนห้วยหลวงพ้นระดับวิกฤตและได้ลดปริมาณการพร่องน้ำลงแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 02.00 น. วันนี้ (19 ก.ย. 66) มวลน้ำจากเขื่อนห้วยหลวงที่ปล่อยระบายออกมาได้ไหลบ่าทะลักท่วมบ้านเรือนประชาชนพื้นที่ บ้านนาเยีย และบ้านนากว้าง อำเภอเมือง จ.อุดรธานี ประกอบกับในพื้นที่มีฝนตกหนักติดต่อกันหลายวัน ส่งผลให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน โดยบ้านประชาชนถูกน้ำเอ่อเข้าท่วมระดับน้ำสูงกว่า 1 เมตร
หลังน้ำทะลักผู้ใหญ่บ้านและอาสาสมัครกู้ภัยมูลนิธิอุดรสว่างเมธาธรรมสถานได้เร่งอพยพชาวบ้านและสัตว์เลี้ยงขึ้นที่สูงโดยเฉพาะที่บ้านนาเยีย ต.เชียงยืน น้ำได้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ชุดปฏิบัติการทางน้ำได้ทำการช่วยเหลือคุณตาวี อายุ 71 ปี และคุณยายเง็ก อายุ 70 ปี ออกจากบ้าน การช่วยเหลือเป็นไปอย่างทุลักทุเลเนื่องจากกระแสน้ำไหลแรง และพาคุณตาไปพักอาศัยที่ศาลากลางบ้าน
สำหรับสถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ในพื้นที่จังหวัดอุดรธานี ล่าสุดขณะนี้ เขื่อนห้วยหลวง ความจุอ่าง 135.57 ล้าน ลบ.ม. น้ำปัจจุบัน 128.28 ลบ.ม. ที่ฝายกุมภวาปี (อ่างหนองหาน) ความจุ 102.00 ลบ.ม. ระดับปัจจุบัน 105.27 ลบ.ม. ทำให้ต้องปล่อยน้ำเพื่อระบายออกจากเขื่อนและอ่างเก็บน้ำเพื่อป้องกัน
ขณะที่ห้องประชุมพระยาศรีสุริยราชวรานุวัตร อาคาร 1 ชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดอุดรธานี ปลัดจังหวัดอุดรธานีเป็นประธานการประชุมคณะทำงานติดตามสถานการณ์ และการบริหารจัดการน้ำ (อุทกภัย) ปี 2566 ศูนย์บัญชาการเหตุการณ์อุทกภัย วาตภัย และดินถล่มจังหวัดอุดรธานี ปี 2566 ครั้งที่ 12/2566 โดยเชื่อมสัญญาณผ่านระบบการประชุมออนไลน์ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและ 20 อำเภอ
ขณะที่ผู้อำนวยการโครงการชลประทานอุดรธานีรายงานว่า น้ำในเขื่อนห้วยหลวงพ้นวิกฤตแล้ว จะลดการระบายน้ำลง ส่วนคลองห้วยหลวงที่บ้านท่าตูม ต.หมูม่น อ.เมืองอุดรธานี น้ำสูงกว่าตลิ่ง 18 เซนติเมตรแล้ว ขณะนี้มีการประสานเปิดประตูระบายน้ำทุกบานแล้ว จนถึงอำเภอโพนพิสัย จ.หนองคาย และติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำช่วยเร่งระบายน้ำแล้ว ซึ่งจะส่งผลให้น้ำระบายเร็วขึ้น ระดับน้ำในพื้นที่ท่วมขังจะลดระดับลง ทั้งนี้ การระบายน้ำออกจากเขื่อนและอ่างเก็บน้ำต่างๆ เป็นการค่อยๆ ระบายน้ำ ไม่ให้เกิดวิกฤตจนกระทั่งเขื่อนหรืออ่างเก็บน้ำแตก
หากเป็นเช่นนั้นจะเกิดภัยใหญ่ ส่งผลให้เกิดความเสียหายมากกว่า ประชาชนเดือดร้อนมากกว่า โดยมีการขอความอนุเคราะห์ผู้นำท้องถิ่น ผู้นำชุมชน ช่วยประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนแก่ผู้ที่อาจได้รับผลกระทบ ทั้งเรื่องระดับน้ำและการระบายน้ำอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ประชาชนเตรียมความพร้อมรับมือ ในการนี้ ขอให้ประชาชนเฝ้าระวังไปอีก 1 สัปดาห์