กำแพงเพชร - ฝนนี้น้ำปิงหลากเพิ่ม แถมไหลเชี่ยว..ซัดตอม่อสะพานศรีมงคลวชิรานุสรณ์ (สะพานวังแขม) ทรุดเพิ่มไม่หยุด วัดระดับล่าสุดทรุดไปแล้ว 37 ซม. ผ่านได้เฉพาะรถเล็ก จนชาวคลองขลุงหวาดผวาเร่งเครื่อง-ขับเบี่ยงหนี กลัวเกิดโศกนาฏกรรมร่วงลงน้ำปิงทั้งรถทั้งคน
สะพานศรีมงคลวชิรานุสรณ์ (สะพานวังแขม) ซึ่งเป็นสะพานข้ามแม่น้ำปิง เชื่อมระหว่าง ต.วังแขม ข้ามไป ต.แม่ลาด อ.คลองขลุง จ.กำแพงเพชร ที่ทรุดตัวลงตั้งแต่ช่วงต้นปี 2566 ที่ผ่านมา มีชาวบ้านจำนวนมากที่ได้รับความเดือดร้อนจากการสัญจรไปมาทั้งสองฝั่งแม่น้ำปิง ทั้งรถการเกษตรของชาวบ้าน รถขนส่งที่มีน้ำหนักสูงไม่สามารถข้ามไปมาได้สะดวก ต้องใช้เส้นทางอ้อมไปไกลกว่า 20 กิโลเมตร
ต่อมาเมื่อวันที่ 1 พ.ค. 66 แขวงทางหลวงชนบทกำแพงเพชรได้นำป้ายและแท่นปูนแบริเออร์มาติดตั้งเตือนห้ามรถใหญ่ที่มีน้ำหนักขับข้ามสะพานอย่างเด็ดขาดเพื่อความปลอดภัย ป้องกันอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน พร้อมแจ้งชาวบ้าน-ผู้นำท้องถิ่นว่า..อยู่ระหว่างรองบประมาณปี 2567 ที่จะเตรียมซ่อมแชมให้กลับมาเปิดใช้งานได้เหมือนเดิมในช่วงเดือน ธ.ค. 66 ที่จะถึงนี้ ทำให้มีเพียงรถยนต์ขนาดเล็กและรถจักรยานยนต์เท่านั้นที่สามารถสัญจรข้ามสะพานไปมาได้
ขณะที่ช่วงนี้กรมอุตุนิยมวิทยาได้พยากรณ์ว่าจะมีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่องหลายวัน ซึ่งจะทำให้ปริมาณน้ำไหลลงสู่แม่น้ำปิงจำนวนมาก เสี่ยงที่สะพานวังแขมมีการทรุดตัวลงจากเดิมมากขึ้น จนชาวบ้านที่สัญจรไปมาต่างหวาดกกลัวว่าจะไม่ปลอดภัยเพราะอาจจะพังถล่มเมื่อไหร่ก็ได้
ล่าสุดเจ้าหน้าที่จากแขวงทางหลวงชนบทกำแพงเพชร ในฐานะหน่วยงานที่ดูแล ได้ใช้อุปกรณ์ในการวัดระดับการทรุดตัวของตอม่อสะพานเมื่อวันที่ 15 ก.ย. 66 ที่ผ่านมา ทรุดลงไปถึง 25 เชนติเมตร ผ่านไป 3 วัน (18 ก.ย. 66) วัดอีกครั้งพบทรุดตัวเพิ่มกว่า 12 เชนติเมตร รวมแล้วสะพานทรุดตัวลงตั้งแต่พบเกิดการชำรุดกว่า 37 เชนติเมตร
แต่ยังยืนยันว่าประชาชนสามารถสัญจรไปมาได้ปกติ เฉพาะรถเล็กเท่านั้น โดยจากนี้ไปจะทำการวัดระดับการทรุดตัวของตอม่อสะพานทุกวัน หากเพิ่มสูงขึ้นกว่าเดิมจะนำสะพานเหล็กแบริ่งมาค้ำยันตอม่อระหว่างสะพานให้แข็งแรงเพื่อให้ประชาชนได้ใช้ชั่วคราวไปก่อน ระหว่างรองบประมาณการซ่อมแช่ม
นายสงบ สร้อยทอง อายุ 71 ปี อยู่บ้านเลขที่ 104/2 ต.เกาะตาล อ.ขาณุวรลักษบุรี จ.กำแพงเพชร ซึ่งใช้ถนนเส้นนี้และสะพานเป็นประจำทุกวัน เล่าว่า ใช้เส้นทางนี้สัญจรไปมาทุกวัน ซึ่งก็ต้องขับรถเบี่ยงไปทางขวาเพราะสะพานอีกฝั่งทรุดตัวลงไปเยอะกว่าเดิม ก็กลัวว่าจะพังถล่มขณะขับรถผ่าน
“จังหวะที่ขับผ่านจุดที่สะพานทรุดต้องเร่งความเร็วขึ้นกว่าเดิม เพราะกลัว อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งแก้ไขโดยด่วน ไม่อยากให้พังเสียหายจนเกิดโศกนาฏกรรม ขณะที่รถใหญ่ตัองอ้อมถนนมาอีกฝั่งระยะทางกว่า 20 กิโลเมตร”
นายอธิวัฒน์ จันทร์เชื้อ วิศวกรโยธาชำนาญการ กรมทางหลวงชนบทกำแพงเพชร กล่าวว่า จากการวัดระดับการทรุดตัวของตอม่อสะพานตั้งแต่ตอนปกติ พบว่าขณะนี้ทรุดตัวลงกว่า 37 เชนติเมตร โดยการวัดครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 18 ก.ย. 66 ที่ผ่านมาทรุดลงไปอีก 12 เชนติเมตร ซึ่งก็จะจัดชุดเจ้าหน้าที่เข้ามาวัดระดับทุกวัน
“หากเกิดการทรุดตัวมากขึ้นต่อเนื่อง อาจปิดการจราจรและนำสะพานเบลีย์มาค้ำยันตอม่อระหว่างสะพานให้แข็งแรงเพื่อให้ประชาชนได้ใช้ชั่วคราวไปก่อน แต่ยังยืนยันว่าตอนนี้รถเล็กสามารถสัญจรไปมาได้ปกติ”