ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - สวัสดิการและคุ้มครองแรงงานโคราชเผย บริษัทซับคอนแทรกต์และโรงงานพร้อมยอมรับเข้าทำงานต่อทันที กรณีหนุ่มโคราชถูกไล่ออกจากงานเหตุลาไปบวชหน้าไฟให้ยายที่เสียชีวิต อ้างไม่ผ่านทดลองงาน แต่หากลูกจ้างไม่ทำงานต่อยินดีจ่ายเงินชดเชยทุกกรณี
วันนี้ (18 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีมีพนักงานโรงงานแห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา ส่งข้อความผ่านไปทางแอปพลิเคชันไลน์ถึงหัวหน้างานเพื่อขอลางานไปบวชหน้าไฟให้กับยายที่เสียชีวิตกะทันหัน เป็นเวลา 2 วัน ซึ่งหัวหน้างานตอบกลับมาว่า “ตามสบาย” ทำให้พนักงานคนดังกล่าวเข้าใจว่าหัวหน้างานรับทราบและอนุญาตให้ลางานแล้ว แต่ภายหลังปรากฏว่ามีเจ้าหน้าที่โทร.ไปแจ้งไล่ออกจากงาน ทำให้พนักงานคนดังกล่าวได้นำข้อความสนทนา และเล่าเรื่องราวโพสต์ลงในโลกโซเชียล กลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในสังคมเป็นวงกว้าง ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุดวันนี้ นายนิสัย สุขระ สวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยว่า ภายหลังจากที่ตนเองได้ทราบข่าวจากสื่อต่างๆ ก็ได้ให้เจ้าหน้าที่ตรวจแรงงานลงพื้นที่ไปพบผู้บริหารและหัวหน้าฝ่ายบุคคลของโรงงานดังกล่าวเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ซึ่งจากการลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงทราบว่า นายบุญฤทธิ์ ชิดดีนอก หรือน้องตั้ง อายุ 20 ปี หนุ่มลูกจ้างโรงงานที่เป็นข่าวนั้น เป็นลูกจ้างของบริษัทซับคอนแทรกต์ ซึ่งเป็นบริษัทที่รับจ้างหาคนเข้ามาทำงานภายในโรงงานอีกที
ทางบริษัทซับคอนแทรกต์ยอมรับว่าได้โทรศัพท์ไปบอกเลิกจ้างงานกับทางน้องตั้งจริงเมื่อวันที่ 16 ก.ย.ที่ผ่านมา โดยให้เหตุผลว่าน้องตั้งไม่ผ่านการทดลองงาน ซึ่งหลังจากเจ้าหน้าที่ได้พูดคุยก็ได้ข้อสรุปว่า ทางตัวแทนของโรงงานและบริษัทซับคอนแทรกต์จะลงพื้นที่ไปที่บ้านของน้องตั้งเพื่อยื่นข้อเสนอในการกลับเข้าทำงานทันที โดยนับอายุงานต่อเนื่องทันที
แต่ถ้าหากน้องตั้งไม่อยากที่จะทำงานต่อ ทางบริษัทซับคอนแทรกต์ก็ยินดีที่จะจ่ายเงินชดเชย ซึ่งประกอบด้วย เงินค่าจ้าง เงินค่าล่วงเวลา เงินค่าข้าว เงินค่ากะ เงินค่าทำงานวันหยุด และเงินค่าจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้า โดยเงินค่าจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้านั้นจะจ่ายให้กับกรณีที่ทางนายจ้างบอกเลิกจ้างลูกจ้างทันที โดยที่ไม่มีการบอกกล่าวล่วงหน้าก่อน โดยค่าจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้านี้ทางบริษัทจะต้องจ่ายตั้งแต่วันที่ 16 ก.ย. จนไปถึงวันที่ 28 ก.ย. 66 ซึ่งเป็นรอบการจ่ายเงินค่าจ้างของน้องตั้ง
สำหรับเรื่องนี้นั้นน่าจะเกิดจากการเข้าใจผิดและการสื่อสารที่ไม่ตรงกันระหว่างบริษัทซับคอนแทรกต์กับตัวของน้องตั้งในเรื่องการลาจึงทำให้เกิดปัญหานี้ขึ้น จึงอยากฝากไปยังนายจ้างและลูกจ้างอยากให้พูดคุยและสื่อสารกันให้เข้าใจก่อน เพื่อป้องกันปัญหาที่จะเกิดขึ้นเหมือนเหตุการณ์นี้อีก