ศูนย์ข่าวศรีราชา - เจ้าของรีสอร์ตหรูริมทะเลแสมสาร อ.สัตหีบ จ.ระยอง แอ่นอกรับผิดชอบ หลังกรมเจ้าท่ามีคำสั่งให้รื้อถอนสิ่งก่อสร้างรุกทะเลสร้างหาดทรายเนื้อที่กว่า 7 ไร่ ออกจากพื้นที่ภายใน 90 วัน เผยยอมรับผิดและจะเร่งคืนผืนทะเลให้คงเดิม
จากกรณีที่ นายณัฐพงศ์ พิทักษ์กรณ์ ผู้ใหญ่บ้าน ม.1 ต.แสมสาร อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ได้แจ้งไปยัง นายสุนทร มูเนาวาเราะ นายอำเภอสัตหีบ ถึงการกระทำของ นายอภิชาติ อร่ามรัตน์ หรืออ้วน ผู้ใหญ่บ้าน ม.3 ต.แสมสาร ที่ได้รับการว่าจ้างจาก นายนฤดม พิสิษฐเกษม หรือเสี่ยสิงห์ ให้นำรถแบ็กโฮ จำนวน 2 คัน รวมทั้งรถบรรทุก 6 ล้อ จำนวน 2 คัน ซึ่งเป็นของบริษัท ภูพระยา จำกัด เข้าขุดซากหิน โขดหินทราย
และยังให้ทำการก่อสร้างเส้นทางคอนกรีตยาว 135 เมตร ลงไปในทะเลแสมสารเพื่อสร้างทางขึ้นลงเรือสปีดโบ๊ต รวมทั้งสร้างกำแพงกันทรายและคลื่น ปรับพื้นผิวในทะเลเพื่อถมให้เป็นหาดทรายส่วนตัวที่ด้านหน้าอาคารเรือนไทยขนาดใหญ่
กระทั่งนายอำเภอสัตหีบ ได้มอบหมายให้ นายชูศักดิ์ นันทิธัญญธาดา ปลัดอาวุโส รวมทั้ง นายนิเวศน์ กุศล ปลัดฝ่ายความมั่นคง นายสุนทร พุ่มโพธิ์ทอง กำนันตำบลแสมสาร และนายมงกรด อุ่นเรือน เจ้าพนักงานป่าไม้อาวุโส ป่าไม้ชลบุรี สนธิกำลังร่วม น.ส.อุรุอาริยา บุญนำมา ประมงอำเภอสัตหีบ และนายวุฒิพงษ์ วงศ์อินทร์ ผู้อำนวยการส่วนอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเล สำนักงานที่ 2 ชลบุรี เดินทางลงพื้นที่ตรวจสอบ
โดยพบว่ามีการกระทำความผิดตามที่ได้รับแจ้งจริง จึงได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อ พ.ต.ท.ไพบูลย์ เลาหะนะวัฒน์ สารวัตรสอบสวน สภ.สัตหีบ เพื่อให้ดำเนินคดีตามกฎหมายในหลายความผิด ขณะที่เจ้าหน้าที่กรมป่าไม้ ยังได้แจ้งข้อหาการกระทำผิดพระราชบัญญัติป่าไม้ พุทธศักราช 2484 มาตรา 54 ฐาน อีก 4 ข้อหาเพื่อให้เอาผิดกับผู้ใหญ่บ้าน ม.3 ต.แสมสาร และเจ้าของรีสอร์ตหรู นั้น
วันนี้ (15 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานได้รับทราบจากแหล่งข่าวที่เชื่อถือได้ว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้นำรถแบ็กโฮขนาดใหญ่ จำนวน 1 คัน เข้าขุดก้อนหินในทะเลใส่รถบรรทุก 6 ล้อ จำนวน 2 คัน เพื่อนำก้อนหินออกจากในทะเลแล้ว
โดยมี นายนฤดม พิสิษฐเกษม หรือเสี่ยสิงห์ เจ้าของภูสิงห์ รีสอร์ต และยังเป็นเจ้าของฟาร์มปลาการ์ตูนที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ควบคุมการขุดปูนคอนกรีตในทะเลเพื่อนำไปทิ้งบนฝั่งด้วยตนเอง
ทั้งนี้ นายนฤดม หรือเสี่ยสิงห์ เผยว่า หลังจากที่ตนเองตกเป็นข่าวได้พิจารณาแล้วว่าได้กระทำความผิดจริง และยอมรับว่าได้ทำการขุด ทำลาย และก่อสร้างโดยไม่ได้รับอนุญาตจากหน่วยงานใดๆ จนมีความผิดตามมาตรา 120 แห่งพระราชบัญญัติการเดินเรือในน่านน้ำไทย พ.ศ.2456 เกี่ยวกับการล่วงล้ำน่านน้ำ ในพื้นที่ 607.35 ตารางเมตร ด้วยการสร้างเขื่อนคอนกรีต เทพื้นคอนกรีตจากริมชายฝั่งยาวออกไปในทะเล 135 เมตร
และขุดลอก แก้ไข หรือทำด้วยประการใดๆ อันเป็นการเปลี่ยนแปลงร่องน้ำ ทางเรือเดินของทะเลภายในน่านน้ำไทย โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าท่า
และยังบอกอีกว่า เมื่อวันที่ 4 ก.ย.ที่ผ่านมาตนเองได้เข้าไปชี้แจง และให้ถ้อยคำที่สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาพัทยา เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และพร้อมที่จะทำการรื้อถอนสิ่งก่อสร้างทั้งหมดออกจากทะเลภายใน 90 วัน ตามคำสั่งของกรมเจ้าท่า และยังจะเร่งนำเครื่องมือเข้าทำการรื้อถอนอย่างเร่งด่วน