ลำปาง - ทั้งตำรวจ ฝ่ายปกครอง ครูลำปาง..เร่งสืบสาวข้อเท็จจริง นักเรียนหญิงวัย 9 ขวบอ้างถูก “ครู” ลากข่มขืนคาห้องน้ำจนเลือดไหล เบื้องต้นผลตรวจภายในพบรอยฉีกขาดจริง แต่เด็กให้ข้อมูลสับสนจับต้นชนปลายไม่ถูก
กรณีแม่เด็กหญิงวัย 9 ขวบ นักเรียนโรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดลำปาง ออกมาเปิดเผยว่าลูกสาวถูกชายอ้างเป็นครูโรงเรียนแห่งหนึ่งที่เข้ามาประชุมในโรงเรียนลากตัวไปล่วงละเมิดในห้องน้ำและข่มขู่ว่า..หากบอกใครก็จะตามมาฆ่าทิ้ง จนเด็กไม่กล้าบอกใคร โดยเด็กระบุว่าเหตุเกิดตั้งแต่วันที่ 25 ส.ค.ที่ผ่านมา
หลังจากแม่ทราบเรื่องจึงนำตัวเข้าแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ และเด็กถูกส่งตัวหาร่องรอยการล่วงละเมิด 2 ครั้ง ซึ่งผลปรากฏว่าภายในอวัยวะเพศของเด็กมีร่องรอยฉีกขาดจริง แต่ระบุไม่ได้ว่าเกิดจากสาเหตุใด
ต่อมาทางเจ้าหน้าที่ได้เชิญครูในโรงเรียนมาให้ปากคำ โดยแยกห้องสอบไปแล้ว ส่วนแม่เด็กเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ให้มาให้ปากคำเพิ่มเติมอีกครั้งในวันนี้ (14 ก.ย.) แต่ปฏิเสธที่จะให้ข้อมูลแก่ผู้สื่อข่าวเพิ่มเติม โดยอ้างว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจขอไปให้ข้อมูลแก่เจ้าหน้าที่ก่อน
ทั้งนี้ จากการสอบถามเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองที่ลงพื้นที่สอบถามครอบครัวของเด็กและทางโรงงเรียนเมื่อเช้าวันนี้ ทำให้ทราบว่าข้อมูลที่เด็กให้กับแม่และยายไม่ตรงกับข้อมูลที่ทางโรงเรียนตรวจสอบในหลายประเด็น เช่น
1. ช่วงเวลาที่เด็กระบุว่าถูกละเมิดในห้องน้ำ วันที่ 25 ส.ค.หลังเคารพธงชาติ ในคาบ 2 ซึ่งก็จะตรงกับเวลาประมาณ 09.00-10.30 น. แต่เวลาดังกล่าวคณะครูต่างโรงเรียนยังไม่ได้เดินทางมาประชุมที่โรงเรียน เนื่องจากมีการประชุมช่วงบ่าย
2. เด็กระบุว่าผู้ที่กระทำละเมิดเป็นครูต่างโรงเรียน และเมื่อถามว่ารู้ได้อย่างไรว่าเป็นครู เด็กบอกว่าเพราะเห็นชายคนดังกล่าวสวมชุดพละและเดินออกมาจากห้องประชุม ซึ่งจริงๆ ในเวลานั้นยังไม่มีการประชุม
3. สถานที่เกิดเหตุคือห้องน้ำ ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่สำรวจก็พบว่าห้องน้ำที่เด็กระบุเป็นจุดเกิดเหตุนั้นอยู่หลังอาคาร ซึ่งมีฝาผนังชั่วคราวและใกล้มาก แม้แต่เวลาพูดก็สามารถได้ยินเสียง หากเด็กถูกลากตัวเข้าห้องน้ำแค่ร้องครั้งเดียวคนที่อยู่ในห้องและบริเวณนั้นจะได้ยินเสียงอย่างแน่นอน
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ทุกฝ่ายอยู่ระหว่างการค้นหาข้อเท็จจริงว่าภายในอวัยวะเพศของเด็กฉีกขาดเกิดจากอะไร และหากเกิดจากการถูกข่มขืนจริงใครเป็นคนทำ ซึ่งขณะนี้เด็กอาจไม่ได้บอกความจริงทั้งหมด
ขณะที่ครูโรงเรียนที่ถูกระบุเป็นที่เกิดเหตุ ระบุว่า มั่นใจว่าไม่มีเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นในโรงเรียนอย่างแน่นอน เพราะข้อมูลที่เด็กบอกสับสนจับต้นชนปลายอะไรไม่ได้เลย หากไม่ใช่ครู จะเป็นคนอื่นที่เข้ามาในโรงเรียนหรือไม่ ยิ่งเป็นไปไม่ได้ เพราะโรงเรียนมีทางเข้า-ออกทางเดียว แม้แต่ใครก็ตามจะเข้ามารับเด็กออกจากโรงเรียนก็ต้องให้เข้ามาในโรงเรียน
ซึ่งเมื่อทราบว่าผลตรวจออกมาว่าพบการละเมิดจริงทางโรงเรียนก็ยังไม่ทราบว่าเด็กถูกใครกระทำ คงต้องปล่อยให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการสอบสวนและค้นหาข้อเท็จจริงต่อไป โดยทางโรงเรียนได้ให้ความร่วมมือทุกอย่าง เพราะหากคนกระทำเป็นครูก็คงไม่ปกป้อง แต่หากไม่ใช่ครู แต่ไปกล่าวหาครู เมื่อผลปรากฏออกมาว่าไม่ใช่ครูก็จะเสียหาย