อาละวาดหนักโจรทุบกระจกฉกทรัพย์ในเมืองพัทยา ล่าสุดทุบรถตู้นักธุรกิจจีนฉกทรัพย์กว่าล้านบาทหลบหนี

ศูนย์ข่าว​ศรี​ราชา ​- อาละวาดหนักโจรทุบกระจกฉกทรัพย์ในเมืองพัทยา ล่าสุดทุบรถตู้นักธุรกิจชาวจีนฉกทรัพย์สินกว่าล้านบาทหลบหนี เบื้องต้น ตำรวจรู้เบาะแสคนร้ายแล้วเตรียมล่าตัวดำเนินคดี​

เมื่อเวลา 21.00 น.วานนี้ (13 ก.ย.)​ ร.ต.อ.สมบัติ แก้วมูลมุข รอง สว.สอบสวน สภ.เมืองพัทยา สาขาย่อยโค้งดงตาล ได้รับแจ้งเหตุทุบกระจกรถยนต์โจรกรรมทรัพย์สิน เหตุเกิดที่ลานจอดรถศูนย์การค้าแห่งหนึ่งย่านพัทยา ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี จึงพร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนเดินทางลงพื้นที่ตรวจสอบ

ในที่เกิดเหตุพบรถยนต์ตู้ยี่ห้อโฟล์คสวาเกน สีน้ำตาล หมายเลขทะเบียน ฮภ 8956 กรุงเทพมหานคร จอดอยู่ภายในลานจอดรถของศูนย์การค้า สภาพกระจกหลังฝั่งคนขับถูกทุบจนแตก และคนร้ายได้โจรกรรมทรัพย์สินของนักธุรกิจชาวจีนหลบหนีไป โดยมีผู้เสียหาย 2 ราย สูญทรัพย์รวมประมาณ 1 ล้านบาท  

โดยผู้เสียหายรายแรกคือ MR.JI BIAO  อายุ 62 ปี สูญทรัพย์สินเป็นเงินสกุลต่างประเทศ จำนวน 12,000 หยวน คิดเป็นเงินไทยประมาณ 60,000 บาท เงินสกุลฮ่องกง 100,000 ดอลลาร์ฮ่องกง คิดเป็นเงินไทยประมาณ 450,000 บาท และเงินไทยอีก 80,000 บาท รวมทั้งเอกสารสำคัญอีกหลายรายการ


ส่วนอีกรายคือ MR.JI QING อายุ 50 ปี สูญทรัพย์สินเป็นเงินสกุลต่างประเทศ จำนวน 100,000 หยวน คิดเป็นเงินไทยประมาณ 500,000 บาท และเงินสกุลฮ่องกงอีก 2,000 ดอลลาร์ฮ่องกง คิดเป็นเงินไทยประมาณ 9,000 บาท เงินสกุลต่างประเทศ 500 เหรียญมาเลเซีย คิดเป็นเงินไทยประมาณ 5,000 บาท และกระเป๋าสะพายยี่ห้อ bv (Bottega Veneta) สีดำ 1 ใบ ราคา 150,000 บาท

เบื้องต้น ร.ต.อ.สมบัติ แก้วมูลมุข รอง สว.สอบสวน ได้รายงาน พ.ต.อ.ฐนพงศ์ โพธิ์ทิ ผกก.สภ.เมืองพัทยา ทราบ ก่อนประสานเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานร่วมตรวจสอบเก็บลายนิ้วมือแฝงของคนร้าย เบื้องต้นสันนิษฐานว่าคนร้ายน่าจะรู้ความเคลื่อนไหวของเหยื่อเป็นอย่างดี 

เนื่องจากเหยื่อเพิ่งเดินทางกลับมาจากต่างประเทศ และให้คนขับรถซึ่งเป็นกลุ่มเพื่อนไปรับมาจากสนามบิน เพื่อแวะรับประทานอาหารที่ศูนย์การค้าแห่งนี้ กระทั่งถูกทุบกระจกรถ โจรกรรมเอาทรัพย์สินไป


อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ทิ้งประเด็นคนร้ายที่ตระเวนก่อเหตุในละแวกใกล้เคียงเมื่อวันที่ 11 ก.ย.ที่ผ่านมา และได้ก่อเหตุทุบกระจกรถของเจ้าของร้านเสื้อผ้า ซึ่งจุดเกิดเหตุอยู่ห่างกันไม่ถึง 1 กิโลเมตร ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนจะลงพื้นที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดในบริเวณใกล้เคียงจุดเกิดเหตุ และเส้นทางที่คาดว่าคนร้ายอาจจะหลบหนีไป

เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เบาะแสของคนร้ายแล้ว และขณะนี้อยู่ระหว่าการติดตามตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป