“ประเสริฐ” รมว.ดีอีเอส ควง “สุดาวรรณ” รมว.กีฬาฯ ถกภาครัฐ-เอกชนโคราชดันพัฒนาบ้านเกิด ลั่นปราบแก๊งคอลฯ สิ้นซาก

ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - “ประเสริฐ” รมว.ดีอีเอส ควง “สุดาวรรณ” รมว.กีฬาฯ ลงพื้นที่ประชุมนอกรอบกับภาครัฐและเอกชนโคราช ผลักดันพัฒนาพื้นที่บ้านเกิด ลั่นหลังรัฐบาลแถลงนโยบายจะเดินหน้าปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ให้สิ้นซาก คนเสื้อแดงแห่ต้อนรับแน่น

วันนี้ (9 ก.ย.) เวลา 13.30 น. นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) พร้อมด้วย นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และคณะ ส.ส.นครราชสีมา พรรคเพื่อไทย (พท.) ทั้ง 12 คน ได้เดินทางมาที่ห้องประชุมชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา เพื่อประชุมหารือนอกรอบกับหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนในการพัฒนาพื้นที่ จ.นครราชสีมาร่วมกัน


โดยมี นายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ให้การต้อนรับ และมีผู้แทนส่วนราชการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หอการค้า และตัวแทนภาคเอกชนต่างๆ ร่วมประชุมกว่า 200 คน โดยระหว่างที่ลงจากรถ ได้มีนายอดิศักดิ์ ชนสูงเนิน ประธานองค์กรเครือข่ายด้านการทุจริตภาคประชาชนจังหวัดนครราชสีมา เข้ายื่นหนังสือต่อนายประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เพื่อขอให้สร้างโคราชเป็นเมืองต้นแบบปลอดแก๊งคอลเซ็นเตอร์ นอกจากนี้ยังมีมวลชนคนเสื้อแดงโคราชเดินทางมาให้กำลังใจกันอย่างเนืองแน่น


นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กล่าวว่า วันนี้เป็นการประชุมนอกรอบกับทุกภาคส่วนในพื้นที่ จ.นครราชสีมา เพื่อที่จะเข้ามาบริหารงานพัฒนาพื้นที่ จ.นครราชสีมาร่วมกันอย่างเป็นรูปธรรม ส่วนกรณีเรื่องของแก๊งคอลเซ็นเตอร์นั้น ถือว่าเป็นปัญหาที่สร้างความเดือดร้อนให้พี่น้องคนไทยทั่วประเทศ ซึ่งกระทรวงดีอีเอสได้ยกระดับการป้องกันและปราบปรามอย่างเข้มข้น ซึ่งเดิมทีกระทรวงมีศูนย์ป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีอยู่แล้ว แต่หลังจากนี้จะมีการตั้งคณะอนุการทำงานป้องกันและปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ขึ้นมาโดยเฉพาะ เพื่อติดตามพฤติกรรมที่น่าสงสัย


โดยจะไปคุยกับธนาคาร สถาบันการเงิน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งจะประสานกับฝ่ายต่างประเทศด้วย เนื่องจากแก๊งคอลเซ็นเตอร์ส่วนใหญ่จะไปตั้งศูนย์ทำงานอยู่ในประเทศเพื่อนบ้าน แล้วยิงสัญญาณเข้ามาในประเทศไทย

นอกจากนี้ยังจะต้องไปแก้ไขกฎหมายอาญาเรื่องการฉ้อโกง ซึ่งทางกระทรวงดูแลอยู่ ทั้งนี้เนื่องจากเทคโนโลยีพัฒนาอย่างรวดเร็วอยู่ตลอด ดังนั้นกระทรวงดีอีเอสจะต้องมีความทันสมัยล้ำหน้าแก๊งคอลเซ็นเตอร์ขึ้นไปอีก เพื่อที่จะให้รู้เท่าทันและสามารถป้องกันปราบปรามให้สิ้นซากไปได้ ซึ่งนโยบายเหล่านี้จะต้องดำเนินการทันทีภายหลังจากที่รัฐบาลแถลงนโยบายแล้ว


ทั้งนี้ หลังจากการประชุมหารือกับภาครัฐและภาคเอกชนในพื้นที่ จ.นครราชสีมา ได้ข้อสรุป 5 เรื่องหลักๆ ที่ได้รับการตอบรับจากรัฐมนตรีทั้ง 2 คน ประกอบไปด้วย

1. รัฐมนตรีจะเร่งรัดให้สามารถเปิดใช้ถนนมอเตอร์เวย์บางปะอิน-โคราช
2. ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมาไปดูที่ดินทำ CEA หรือ TCDC ได้เลย เรื่องงบประมาณรับปากจะดูให้
3. Unesco link road และการพัฒนา 3 มงกุฎมรดกโลก เพื่อการสร้าง land mark โดยให้ผู้ว่าฯ นครราชสีมาตั้งทีมงานประสานหน่วยที่เกี่ยวข้อง และตั้งทีมทำงาน
4. โครงการสร้างศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติ ให้ผู้ว่าฯ นครราชสีมาไปคุยกับทางธนารักษ์หาพื้นที่ที่เหมาะสม รัฐมนตรีจะดำเนินการให้ในส่วนนโยบายรัฐบาลและงบประมาณ
5. สนามบินกองบิน 1 รัฐมนตรีรับไปประสานหาวิธีร่วมกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เพื่อเปิดใช้เป็นสนามบินพาณิชย์ได้