อุดรธานี - ผู้ประกอบกิจการวิทยุภาคประชาชนเข้ายื่นหนังสือต่อนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ให้ช่วยผลักดันการแก้ไข พ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ฯ ให้สำเร็จเพื่อให้สถานีวิทยุภาคประชาชนได้ออกอากาศต่อ หลังจากที่พรรคเพื่อไทยเคยเสนอเข้าสภาผู้แทนราษฎรไปแล้วแต่มีการยุบสภาก่อนจะแก้สำเร็จตามกำหนด
ในโอกาสที่นายกรัฐมนตรี นายเศรษฐา ทวีสิน และคณะได้ลงพื้นที่ จ.อุดรธานี เมื่อวันที่ 8 กันยายน 2566 เพื่อรับฟังปัญหาและความเดือดร้อนของประชาชน พร้อมกับตรวจความพร้อมของการจัดงานมหกรรมพืชสวนโลก ที่ จ.อุดรธานี นายวรพจน์ ลัภโต ประธานชมรมผู้ประกอบกิจการวิทยุภาคประชาชน และ หมวดโท การุณ พุทธรักษา นายกสมาคมวิทยุท้องถิ่นจังหวัดอุดรธานี ได้เข้ายื่นหนังสือขอให้นายกรัฐมนตรีช่วยผลักดันการแก้ไข พ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. 2553 และที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้มีการยกเลิกการประมูลคลื่นความถี่สำหรับวิทยุกระจายเสียงประเภทธุรกิจ ที่ออกอากาศ 500 วัตต์ ซึ่งปัจจุบันมีอยู่ 3,150 สถานี ให้สามารถออกอากาศต่อไป และจัดให้วิทยุทดลองออกอากาศในขณะนี้ เปลี่ยนไปวิทยุภาคประชาชนเพื่อให้ออกอากาศได้ต่อเนื่องหลังจากสิ้นปี 2567
นายวรพจน์กล่าวเพิ่มเติมว่า การดำเนินการแก้กฎหมายให้ผู้ทดลองออกอากาศดังกล่าว พรรคเพื่อไทยได้ดำเนินการยกร่างแก้ไข และนำเสนอเข้าสภาไปแล้วตั้งแต่วันที่ 14 กันยายน 2565 โดย ส.ส.คมเดช ไชยศิวามงคล และคณะเป็นผู้ยื่น แต่เนื่องจากมีการยุบสภาเสียก่อน ร่างกฎหมายจึงตกไป ชึ่งที่ผ่านมาพรรคเพื่อไทยให้คำมั่นว่าจะนำร่างกฎหมายกลับเข้าสู่การพิจารณาในสภาอีกครั้ง ขณะนี้ได้ประสานงานเบื้องต้นกับวิปรัฐบาลในการดำเนินการแล้ว
ประกอบกับ กสทช.ได้กำหนดระยะเวลาในการสิ้นสุดการออกอากาศในวันที่ 31 ธันวาคม 2567 กลุ่มผู้ทดลองออกอากาศ เกรงว่าการดำเนินงานจะไม่ทันตามกรอบเวลา จึงขอให้พรรคเพื่อไทยและรัฐบาลเร่งดำเนินการแก้กฎหมายให้แล้วเสร็จทันตามกำหนด
"ท่านนายกรัฐมนตรีแจ้งว่าได้รับทราบปัญหาความเดือดร้อนและความต้องการของผู้ทดลองออกอากาศแล้ว และยินดีที่จะรับเรื่องนี้ไปดำเนินการให้ โดยจะมอบให้ส่วนงานที่เกี่ยวข้องไปดำเนินการต่อไป" นายวรพจน์กล่าว