โชเฟอร์แท็กซี่ผันตัวหันมาขับกระบะขนแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมาย เห็นว่าเงินดีสุดท้ายไม่รอด

พระนครศรีอยุธยา - โชเฟอร์แท็กซี่ผันตัวหันมาขับกระบะขนแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมาย เห็นว่าเงินดี สุดท้ายถูกตำรวจทางหลวงจับได้เสียก่อน ด้านแรงงานต่างด้าวขนข้าวสารเครื่องครัวเต็มคันรถเตรียมทำงานในไทย

เย็นวันนี้ (4 ก.ย.) พ.ต.ต.ปภินวิทย์ อุดมพร สว.ทล.1 บก.ทล.(อยุธยา) เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงอยุธยา ในขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงอยุธยา ออกตรวจอยู่บนถนนสายเอเชีย ขาเข้ากรุงเทพมหานคร พบรถยนต์กระบะโตโยต้า สีขาว หมายเลขทะเบียน 4 ขช 7479 กรุงเทพมหานคร ลักษณะรถคล้ายกับบรรทุกของหนักมา ทั้งที่ในกระบะไม่มีสิ่งของ ช่วงหลักกิโลเมตรที่ 17 ต.คลองสวนพลู อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา จึงได้เปิดสัญญาณไฟเพื่อให้หยุดรถ ซึ่งช่วงนั้นการจราจรติดขัด จึงสามาสกัดจับรถเอาไว้ได้

ตรวจค้นในรถพบ นายพลวัตร คีรีพรรณราย อายุ 43 ปี ชาว จ.ตาก เป็นคนขับรถ ภายในรถยังพบแรงงานต่างด้าวสัญชาติพม่า เป็นชายรวม 6 คน สอบถามและตรวจสอบไม่พบเอกสารหรือหนังสือเดินทาง จึงควบคุมตัวทั้งหมดมาสอบสวนที่หน่วยบริการตำรวจทางหลวงเอเชีย พร้อมประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจค้นเข้าเมืองอยุธยา มาร่วมสอบสวนด้วย

นายพลวัตร คนขับรถยนต์กระบะให้การรับสาราภพว่า มีชาวพม่าซึ่งรู้จักกับญาติของตนติดต่อว่าจ้างให้ตนไปรับแรงานต่างด้าวที่ จ.ลำพูน จำนวน 6 คน เพื่อมาส่งที่ย่านนวนคร ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ในราคาคนละ 4,000 บาท ยังไม่ได้รับเงินค่าจ้าง ทราบเพียงว่าถ้าส่งแรงงานต่างด้าวแล้วจะมีการจ่ายเงินให้ แต่มาถูกจับกุมเสียก่อน เพิ่งจะทำเป็นครั้งแรกแต่มาถูกจับกุมได้เสียก่อน

สอบถามแรงงานต่างด้าวที่ถูกจับกุมผ่านล่ามให้การยอมรับว่า ได้ลักลอบเดินทางเข้ามาในประเทศไทยทางช่องทางธรรมชาติและเดินข้ามมาในพื้นที่ อ.แม่สาย จ.เชียงราย และจะมีคนพาออกมาขึ้นรถเพื่อจะเข้ามาหางานทำในประเทศไทย โดยเสียค่าใช้จ่ายการเดินทางภายในประเทศไทย จำนวนเงิน 5,000 บาทต่อคน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการตรวจค้นในรถอย่างละเอียด เจ้าหน้าที่ตำรวจพบกระเป๋าเสื้อผ้าของแรงงานต่างด้าว ถุงปุ๋ยภายในบรรจุหม้อหุงข้าว กระทะ เครื่องครัวทำอาหาร และยังพบถุงข้าวสารน้ำหนักกว่า 50 กิโลกรัม เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงให้ข้อมูลว่า เป็นการจับกุมแรงงานต่างด้าวครั้งแรกที่พบว่ากลุ่มแรงงานต่างด้าวมีการขนข้าวสารพร้อมกับเครื่องครัวมาด้วย