ลพบุรี - ปริมาณน้ำในเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์เหลือเพียง 7% รอน้ำฝนตกเหนือเขื่อนไหลเข้ามาเติม ถ้าไม่มีเข้ามาเติมภายในเดือนกันยายนนี้ ลพบุรี และพื้นที่ใกล้เคียงที่ใช้น้ำจากเขื่อนวิกฤตแน่
วันนี้ (3 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ตำบลหนองบัว อำเภอพัฒนานิคม จังหวัดลพบุรี ซึ่งเป็นเขื่อนดินพระราชทานที่ยาวที่สุดในประเทศไทย ในปัจจุบันปริมาณน้ำในเขื่อนป่าสักมีเหลือเพียง 7% ซึ่งเป็นสถานการณ์น่าเป็นห่วง ถ้าฝนไม่ตกบริเวณเหนือเขื่อนภายในเดือนกันยายนนี้ จะเกิดปัญหาขาดแคลนน้ำอย่างแน่นอน ซึ่งในช่วงนี้เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ได้ปล่อยน้ำเพื่อไปช่วยเหลือรักษาระบบนิเวศบริเวณท้ายเขื่อน และใช้ในเรื่องของการอุปโภคบริโภคเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ในด้านการเกษตรไม่สามารถให้การช่วยเหลือได้แล้ว
โดยนายธเนศ อักษร ผู้อำนวยการฝ่าบริหารการจัดสรรน้ำและบำรุงรักษา ชลประทานที่ 10 กล่าวว่า น้ำในเขื่อนป่าสักที่อยู่ในอ่างในปัจจุบันนี้ที่ใช้ได้มีอยู่ประมาณ 7% ซึ่งจากที่กรมอุตุนิยมวิทยาคาดการณ์ไว้ว่า จะมีมรสุมพาดผ่านประเทศไทยในช่วงเดือนกันยายนนี้ จะทำให้มีฝนตกเหนือเขื่อน
คาดว่าน้ำจะมีไหลเข้าอ่างเก็บน้ำเขื่อนป่าสัก แต่ปัจจุบันน้ำในเขื่อนป่าสัก มีให้ใช้น้ำสำหรับอุปโภคบริโภคเท่านั้น ส่วนทางด้านการเกษตรนั้นมีไม่พียงพอ ขอให้เกษตรกรระงับการปลูกข้าว รวมทั้งพืชที่ใช้น้ำมากไว้ชั่วคราวก่อน จนกว่าปริมาณน้ำจะเข้าสู่ปกติ