บุรีรัมย์ - ชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 3 ร่วมกับชุดสืบภูธร จ.บุรีรัมย์ สภ.นางรอง และ สภ.หนองหาน นำหมายศาลบุกรวบสองผัวเมีย อดีตแฟนเก่าที่เคยมีเรื่องแจ้งความดำเนินคดีเมื่อ 2 ปีก่อน หลังพบหลักฐานการเช่ารถ และวงจรปิดตามจุดต่างๆ มัดตัว มีส่วนเกี่ยวข้องในการก่อเหตุสาดน้ำกรดนักเรียน ม.6 ขณะนั่งกินข้าวสาหัส ล่าสุดยังรักษาตัวที่ รพ. ขณะสองผัวเมียที่ถูกจับยังให้การภาคเสธ
วันนี้ (31 ส.ค.) ความคืบหน้ากรณีคนร้าย 2 คน สวมชุดดำและไอ้โม่งปิดใบหน้า ขับขี่รถยนต์เก๋งยี่ห้อโตโยต้า ยารีส สีขาว ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ถือถังใส่น้ำกรดบุกเข้าไปสาดใส่ น.ส.นัฎฐิกานต์ หรือน้องอั้ม อายุ 18 ปี นักเรียนชั้น ม.6 โรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.นางรอง ขณะนั่งกินข้าวอยู่กับยาย และน้าชาย ภายในร้านอาหารตามสั่งแห่งหนึ่งในเขตเทศบาลเมืองนางรอง อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 27 ส.ค.ที่ผ่านมา ได้รับบาดเจ็บสาหัส ทั้งนี้ยาย และน้าชายโดนน้ำกรดกระเด็นใส่ด้วย ซึ่งขณะนี้น้องอั้มยังรักษาตัวอยู่ที่ รพ.บุรีรัมย์และอยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด แม้อาการจะพ้นขีดอันตรายแล้ว แต่ดวงตาข้างขวาที่เพิ่งทำการผ่าตัดเนื่องจากมองไม่เห็น ยังรอแพทย์ตรวจประเมินอาการอีกครั้งนั้น
ล่าสุดวันนี้ เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 3 พร้อมด้วยชุดสืบสวนภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ และชุดสืบสวนจากสถานีตำรวจภูธรนางรอง ร่วมกับชุดสืบสวนสถานีตำรวจภูธรหนองหาน จ.อุดรธานี ได้นำหมายศาลจังหวัดนางรองไปติดตามจับกุมตัว นายเจษฎาภรณ์ อายุ 21 ปี และ น.ส.อังคณา อายุ 25 ปี สองสามีภรรยา ขณะพักอาศัยอยู่บริเวณสวนมะม่วงทางทิศเหนือของหมู่บ้านนางิ้ว ต.โพนงาม อ.หนองหาน จ.อุดรธานี หลังพบพยานหลักฐานทั้งการเช่ารถยนต์ที่ใช้ประกอบเหตุ รวมถึงภาพจากกล้องวงจรปิดตามจุดต่างๆ ที่สามารถยืนยันได้ว่าทั้งสองมีส่วนร่วมในการก่อเหตุสาดน้ำกรดน้องอั้ม นักเรียนชั้น ม.6
โดยเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้แสดงหมายจับของศาลจังหวัดนางรอง พร้อมแจ้งสิทธิให้บุคคลทั้งสองที่ถูกออกหมายจับได้รับทราบ ซึ่ง น.ส.อังคณา และนายเจษฎาภรณ์รับว่าเป็นบุคคลตามหมายจับจริง แต่ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา
อย่างไรก็ตาม ชุดจับกุมจะได้นำตัวผู้ต้องหาทั้งสองที่ถูกจับกุมตามหมายศาล กลับมาสอบปากคำที่ สภ.นางรอง และดำเนินคดีตามกระบวนการกฎหมายต่อไป
โดยนายเจษฎาภรณ์ที่ถูกจับกุมตามหมายศาลเป็นอดีตแฟนเก่าของน้องอั้มผู้บาดเจ็บ ส่วน น.ส.อังคณา เป็นภรรยาใหม่ของนายเจษฎาภรณ์ ซึ่งทั้งคู่เคยถูกแจ้งความกล่าวหาฐานพรากผู้เยาว์ และทำให้เสียทรัพย์ จนถึงขั้นขึ้นศาลและคดีจบไปแล้ว ส่วนการก่อเหตุครั้งนี้อาจจะทำเพื่อแก้แค้นหรือไม่อยู่ระหว่างการสอบปากคำ เพราะทั้งคู่ยังให้การปฏิเสธ