xs
xsm
sm
md
lg

แม่ทัพภาคที่ 3 สั่งเข้มงวดต่อเนื่องสกัดกั้นยาเสพติด 4 จว.ชายแดนเหนือ-พบแนวโน้มพุ่งลักลอบส่งผ่านระบบโลจิสติกส์

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เชียงใหม่ - แม่ทัพภาคที่ 3 นั่งหัวโต๊ะประชุมศูนย์อำนวยการปฏิบัติการแก้ไขปัญหายาเสพติดชายแดนภาคเหนือ สั่งการเน้นปราบปรามอย่างต่อเนื่อง พร้อมเพิ่มความเข้มงวดสกัดกั้นการลำเลียง โดยปัจจุบันพบว่าขบวนการยาเสพติดมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นในการใช้ช่องทางระบบโลจิสติกส์ลักลอบขนส่งในรูปแบบพัสดุภัณฑ์ เนื่องจากมีความเสี่ยงน้อย ต้นทุนต่ำ รวดเร็ว และสามารถส่งถึงผู้รับได้โดยตรง


วันนี้ (29 ส.ค. 66) ที่จังหวัดเชียงใหม่ พลโท สุริยะ เอี่ยมสุโร แม่ทัพภาคที่ 3 ในฐานะประธานคณะกรรมการศูนย์อำนวยการปฏิบัติการแก้ไขปัญหายาเสพติดชายแดนภาคเหนือ หรือ ศอ.ปส.ชน. เป็นประธานในการประชุมร่วมกับสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติดภาค 5, กองกำลังผาเมือง, หน่วยทหารสังกัดกองทัพภาคที่ 3, ตำรวจภูธรภาค 5 และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อหารือแนวทางในการป้องกัน สกัดกั้น และปราบปรามยาเสพติดในพื้นที่รับผิดชอบ 4 จังหวัดชายแดนภาคเหนือ ได้แก่ จังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย และพะเยา ซึ่งในปีงบประมาณที่ผ่านมา ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2565 จนถึงปัจจุบัน ศอ.ปส.ชน.มีการร่วมตรวจยึด และจับกุมยาเสพติดไป 451 ครั้ง ได้ผู้ต้องหา 496 ราย ตรวจยึดยาบ้า 91,263,986 เม็ด, ไอซ์ 3,582.98 กิโลกรัม, เฮโรอีน 28.77 กิโลกรัม, ฝิ่นดิบ 270.87 กิโลกรัม, เคตามีน 363.25 กิโลกรัม

นอกจากนี้ ยังให้ความสำคัญในการสกัดกั้นสารตั้งต้น และเคมีภัณฑ์ ไม่ให้เข้าสู่แหล่งผลิต ทั้งการใช้สารเคมีควบคุมในโรงงานอุตสาหกรรม, การส่งออกสารเคมีผ่านด่านพรมแดน และการลักลอบขนส่งยาเสพติดผ่านระบบโลจิสติกส์ ด้วยการตรวจการขนส่งทางบกในช่วงเทศกาลสำคัญ, ตรวจสถานประกอบการรับส่งสินค้า และพัสดุภัณฑ์ ตลอดจนเชิญผู้ประกอบธุรกิจสถานประกอบการขนส่งสินค้าร่วมหารือ ขอความร่วมมือ และกำหนดแนวทางในการแก้ไขปัญหาร่วมกัน เพราะในระยะหลังพบว่ามีการลักลอบขนส่งยาเสพติดผ่านทางระบบโลจิสติกส์ในประเทศเพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะในรูปแบบพัสดุภัณฑ์ เนื่องจากมีความเสี่ยงน้อย ต้นทุนต่ำ รวดเร็ว และสามารถส่งถึงผู้รับได้โดยตรง ซึ่งในปี 2566 นี้สามารถจับกุมการส่งจากต้นทางในพื้นที่ชายแดนภาคเหนือได้จำนวน 18 ครั้ง ส่งไปยังปลายทางทั้งในประเทศและต่างประเทศ ยึดของกลางยาบ้ากว่า 7,515,098 เม็ด, ไอซ์ 350 กิโลกรัม, เฮโรอีน 20 กิโลกรัม และเคตามีน 20 กิโลกรัม จึงขอให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมผลักดันให้เป็นนโยบายร่วมกันที่จะเข้มงวดกวดขันตรวจสอบการลักลอบขนส่งยาเสพติดผ่านทางระบบโลจิสติกส์ อีกทั้งการเฝ้าระวังสารเสพติดรูปแบบใหม่ในกลุ่มนักเที่ยวสถานบันเทิง ซึ่งเป็นกลุ่ม Club Drugs ด้วย






กำลังโหลดความคิดเห็น