ศาลจังหวัดสมุทรสงครามจัดโครงการไกล่เกลี่ยทั่วไป ร่วมใจสานสันติ

สมุทรสงคราม - ศาลจังหวัดสมุทรสงครามจัดโครงการไกล่เกลี่ยทั่วไทย ร่วมใจสานสันติ ภายใต้นโยบายประธานศาลฎีกา ข้อ 3 รับใช้ประชาชน ให้ความรู้เรื่องการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทแก่สมาชิกหอการค้า เพื่อเผยแพร่ประชาสัมพันธ์การไกล่เกลี่ยข้อพิพาทให้เป็นที่รู้จักแก่ประชาชน เพื่อให้ข้าถึงความยุติธรรมได้โดยง่ายสะดวก รวดเร็ว ประหยัด และเป็นธรรม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสำฤทธิ์ ราชสมณะ ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดสมุทรสงครามให้เกียรติเป็นวิทยากรบรรยายให้ความรู้ในเรื่อง “หลักการไกล่เกลี่ยข้อพิพาท” และ น.ส.เนตรดาว ผลประมูล นิติกรชำนาญการพิเศษ ประจำสำนักอำนวยการประจำศาลจังหวัดสมุทรสงคราม เป็นวิทยากรให้ความรู้เรื่อง “กระบวนการไกล่เกลี่ยข้อพิพาท” โดยมีนายอุทัย ดำรงธรรม ประธานหอการค้าจังหวัดสมุทรสงคราม ที่ปรึกษา คณะกรรมการหอการค้า และ Young Entrepreneurs Chamber of Commerce (YEC) สมุทรสงคราม เข้าร่วมโครงการดังกล่าว ที่ห้องประชุมสำนักงานหอการค้าจังหวัดสมุทรสงคราม

นายสำฤทธิ์ ราชสมณะ ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดสมุทรสงคราม กล่าวว่า ด้วยศาลยุติธรรมได้มีนโยบายในการส่งเสริมกระบวนการไกล่เกลี่ยข้อพิพาททั้งก่อนฟ้องและหลังฟ้อง เพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนผู้มีอรรถคดีได้เจรจายุติข้อพิพาทที่เกิดขึ้นด้วยความสะดวก รวดเร็ว ประหยัด และเป็นธรรม ลดปริมาณคดีที่จะขึ้นสู่ศาล มีประโยชน์ทั้งฝ่ายผู้ร้องและฝ่ายผู้ถูกร้อง โดยมีผู้ประนีประนอมทั้งที่เป็นบุคลากรในศาลและบุคคลภายนอกที่มีความรู้ความสามารถ ผ่านการฝึกอบรมเป็นผู้ช่วยเหลือคู่ความให้สามารถเจรจากันได้อย่างมีประสิทธิภาพและสัมฤทธิผล รวมทั้งเสนอแนะแนวทางการแก้ไขปัญหาและยุติข้อพิพาทภายใต้นโยบายของประธานศาลฎีกาข้อ 3 รับใช้ประชาชนโดยถือความต้องการของประชาชนผู้รับบริการเป็นศูนย์กลาง เน้นการนำเทคโนโลยีสารสนเทศและนวัตกรรมมาใช้สนับสนุนการปฏิบัติงาน เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงบริการของศาลยุติธรรมโดยง่าย สะดวก ประหยัด รวดเร็ว เสมอภาค และเท่าเทียม

จากนั้น น.ส.เนตรดาว ผลประมูล นิติกรชำนาญการพิเศษ ประจำสำนักอำนวยการประจำศาลจังหวัดสมุทรสงคราม ได้บรรยายให้ความรู้เรื่องกระบวนการไกล่เกลี่ยข้อพิพาท ซึ่งหลักการที่สำคัญของการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทต้องเกิดจากความสมัครใจของคู่ความที่จะเข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ยเพื่อหาทางออกร่วมกัน สำหรับการไกล่เกลี่ยข้อพิพาท มีทั้งการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทก่อนฟ้องและหลังฟ้อง

ซึ่งมีความแตกต่างกันในหลายประการ กระบวนการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทก่อนฟ้องตาม พ.ร.บ.การไกล่เกลี่ยข้อพิพาท พ.ศ.2562 และการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทตาม ป.วิ แพ่ง มาตรา 20 ตรี ทางแพ่ง ซึ่งมีการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้เลือกใช้กระบวนการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทก่อนฟ้องเพราะจะเป็นการสะดวก ประหยัด และรวดเร็ว ไม่เสียค่าใช้จ่าย ส่วนการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทหลังฟ้องคดีสามารถทำได้เช่นกัน ทำให้คู่ความสามารถยุติข้อพิพาทได้ด้วยความรวดเร็วและพึงพอใจด้วยกันทั้งสองฝ่าย

ส่วนคดีที่สามารถไกล่เกลี่ยข้อพิพาทได้ คือคดีเเพ่ง คดีอาญาความผิดที่ยอมความได้ คดีอาญาที่มีการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนส่วนแพ่งหรือคดีอาญาที่ราษฎรเป็นโจทก์ฟ้องกันเอง อย่างไรก็ตาม หากต้องการใช้บริการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทในศาลติดต่อสอบถามได้ที่ศูนย์ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทประจำศาลจังหวัดสมุทรสงคราม โทรศัพท์ 0-3471-4737 ในวันและเวลาราชการ