นครสวรรค์ - อุทาหรณ์คนเลือดร้อน..หนุ่มนครสวรรค์เดือดแชตด่าทอ-ท้าทาย พกมีดสั้นบุกเคลียร์เพื่อนรุ่นน้องปมด่าบุพการี โดนสองพี่น้องคว้าจอบ-ดาบยาวตะลุมบอนดับสลด
พ.ต.ท.ธนาภัสสร์ รุ่งรัตน์ รอง ผกก.สส.สภ.เมืองนครสวรรค์ และเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวน สภ.เมืองนครสวรรค์ ร่วมกันควบคุมตัว นายณัฐวุฒิ หรือเป๊ป อายุ 22 ปี มาสอบสวนยังโรงพักเมื่อ 28 ส.ค. 66 กรณีที่เจ้าตัวร่วมกับพี่ชาย คือ นายนคเรศ หรือไปร์ท อายุ 24 ปี ใช้อาวุธทำร้ายร่างกาย นายพลพีร์ หรือเต๋า ปรีชาชาญ อายุ 28 ปี จนถึงแก่ความตาย ที่บริเวณหน้าบ้านพักเลขที่ 742/1 ม.10 ต.นครสวรรค์ตก อ.เมืองนครสวรรค์ คืนวันที่ 27 สิงหาคมที่ผ่านมา
ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ให้ข้อมูลว่า เหตุทะเลาะวิวาททำร้ายร่างกายกันเมื่อคืนนี้ เมื่อทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไปถึงที่เกิดเหตุ ก็พบแต่ร่างของนายพลพีร์ นอนจมกองเลือด ในสภาพหายใจรวยริน และร่างกายมีร่องรอยบาดแผลถูกของมีคมตามร่างกายหลายแห่ง หน่วยกู้ชีพกู้ภัยได้พยายามช่วยกันปั๊มหัวใจอยู่นาน แต่ก็ไม่สามารถช่วยยื้อชีวิตของนายพลพีร์ไว้ได้ จึงเสียชีวิตในเวลาต่อมาที่โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์
ส่วนผู้ที่ก่อเหตุ ทางเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมคนร้ายไว้ได้ 1 คน คือ นายนคเรศ ซึ่งได้เข้าไปหลบอยู่ในบ้านพักจุดเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่จึงเข้าไปควบคุมตัว พร้อมกับยึดของกลางที่ใช้ก่อเหตุ ประกอบด้วย จอบ หน้ากว้าง 6 นิ้ว ความยาวด้าม 41 นิ้ว และอาวุธมีดรวมด้ามยาว 18 นิ้ว ก่อนจะควบคุมตัวไปยังโรงพัก โดยในระหว่างควบคุมตัว นายนคเรศให้การว่ายังมีผู้ร่วมก่อเหตุอีก 1 คน คือ นายณัฐวุฒิ น้องชาย ได้หลบหนีออกจากที่เกิดเหตุไปแล้ว
อย่างไรก็ตาม เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวนายนคเรศมาสอบสวนยังโรงพัก ปรากฏว่านายณัฐวุฒิ น้องชายที่ร่วมกันก่อเหตุ หอบร่างโชกเลือดมีบาดแผลจากการถูกทำร้ายร่างกายด้วยอาวุธมีด กำลังนั่งแจ้งความต่อตำรวจร้อยเวร ให้ดำเนินคดีนายพลพีร์ ซึ่งบุกมาหาเรื่อง และใช้อาวุธมีดสั้นทำร้ายร่างกายถึงบ้าน
เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเข้าควบคุมตัวนายณัฐวุฒิทันที พร้อมกับแจ้งให้เจ้าตัวรู้ว่า คนที่นายณัฐวุฒิมาแจ้งความให้เอาเรื่อง ได้ถูกเจ้าตัวและพี่ชายรุมแทงตายไปก่อนแล้ว ซึ่งก็ทำให้นายณัฐวุฒิตกใจหน้าถอดสี แล้วทรุดตัวลงจากเก้าอี้สลบเหมือดไปในทันที จนต้องรีบประสานเรียกหน่วยกู้ชีพให้มาปฐมพยาบาลก่อนจะพาไปรักษาตัวยังโรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ รุ่งขึ้น (28 ส.ค.) จึงถูกตำรวจควบคุมตัวมาสอบสวนต่อ
เบื้องต้นผู้ก่อเหตุทั้งคู่ให้การว่ามีเรื่องทะเลาะวิวาทและทำร้ายร่างกายนายพลพีร์ที่หน้าบ้านจริง เนื่องจากนายพลพีร์เข้าใจผิด หาว่านายณัฐวุฒิไปตะโกนด่าบุพการีใส่ จึงทำให้นายพลพีร์ไม่พอใจ ส่งแชตมาด่าทอก่อนจะเกิดการท้าทายกัน แล้วนายพลพีร์จึงขี่รถควงอาวุธมีดสั้นบุกมาหาเรื่องนายณัฐวุฒิถึงบ้าน
แต่ตอนนั้นนายณัฐวุฒิกำลังอยู่กับพี่ชาย และเมื่อนายนคเรศเห็นว่าน้องชายกำลังมีเรื่องจะถูกทำร้าย จึงได้ถือจอบเข้าไปช่วยตะลุมบอนจนกลายเป็นเหตุสลดขึ้น สุดท้ายทั้งสองพี่น้องจึงถูกตำรวจแจ้ง 2 ข้อหา ฐานร่วมกันทำร้ายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย และพาอาวุธไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันสมควร
ต่อมาผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปสอบถาม น.ส.เจนจิรา ปรีชาชาญ อายุ 46 ปี มารดานายพลพีร์ ที่จัดงานศพลูกชายอยู่ที่วัดพระบางมงคล ต.วัดไทร อ.เมืองนครสวรรค์ เปิดเผยต่อผู้สื่อข่าวว่า นายพลพีร์เป็นลูกชายคนเดียว ส่วนกลุ่มผู้ก่อเหตุ เท่าที่ตนรู้เขาก็เป็นเพื่อนกับลูก แต่เขาไปมีปัญหาเรื่องอะไรกันนั้นตนไม่รู้ และกว่าจะรู้ลูกก็ถูกส่งตัวไปรักษายังโรงพยาบาลแล้ว สภาพมีแต่แผลไปหมด แม้แต่ใบหน้าก็ยังมีรอยแผลถูกฟัน หมอกำลังช่วยปั๊มหัวใจให้อยู่ เห็นแล้วสงสารลูกอย่างมาก และร้องขอให้หมอพยายามช่วยยื้อชีวิตลูกทุกวิถีทาง แต่สุดท้ายลูกก็ไม่คืนฟื้นสติกลับมาอีก
เมื่อถามถึงฝ่ายผู้ก่อเหตุได้ติดต่อกลับมาบ้างหรือไม่ น.ส.เจนจิราบอกว่า ตอนนี้ยังไม่มีติดต่อมา มีแต่ตำรวจที่มาบอกสาเหตุและเรื่องราวทั้งหมด ก็คงต้องปล่อยให้เป็นคดีความตามกฎหมายไป แต่ใจตนก็อยากจะเอาเรื่องผู้ก่อเหตุทั้งคู่ให้ถึงสุด
