xs
xsm
sm
md
lg

หวั่นเงินดิจิทัลคนละหมื่นยุ่งยาก-บ้างอยากเข้าเมือง! ชาวบ้าน-พ่อค้าแม่ขายเสียงแตก อยากให้สานต่อเงินลุง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



อุทัยธานี - ชาวบ้าน-พ่อค้าแม่ขายเสียงแตก..ไม่มั่นใจ “นายกฯ นิด-รัฐบาลใหม่” แจกเงินดิจิทัลคนละหมื่น หวั่นยุ่งยาก บางคนอยากเข้าเมืองบ้างก็ใช้ไม่ได้ อยากให้สานต่อเงินประชารัฐยุคลุงแทน บอกถึงได้น้อยแต่ได้เรื่อยๆ



วันนี้ (24 ส.ค. 66) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี จากพรรคเพื่อไทย ประกาศเดินหน้าแจกเงินดิจิทัลคนละ 10,000 บาทเมื่อตั้งรัฐบาลเสร็จสิ้นนั้น จากการลงพื้นที่สอบถามประชาชนทั้งในฝั่งผู้บริโภค-พ่อค้าแม่ขาย หลายรายในเขตเทศบาลเมืองอุทัยธานี พบว่าส่วนใหญ่ต่างเริ่มเฝ้ารอเงินดิจิทัลตามนโยบายหาเสียงดังกล่าว แต่บางส่วนอยากให้สานต่อเงินประชารัฐตามนโยบายรัฐบาลลุงมากกว่า

นางสาวยุพาวดี แซ่จิว เจ้าของร้านอุทัยมาร์ท หน้าสวนสาธารณะ ร.ศ. 200 ปี ถนนวงศาโรจน์ อ.เมืองอุทัยธานี ซึ่งเป็นร้านขายของใช้ทุกประเภทที่จำเป็นรวมถึงข้าวสารและอาหารแห้งต่างๆ เปิดเผยว่า ตอนนี้ประชาชนส่วนใหญ่ที่เข้ามาจับจ่ายซื้อของใช้ต่างก็บ่นกันระนาวว่าข้าวของแพงขึ้นมามาก แล้วก็แทบไม่มีเงินจะซื้อกัน ทั้งสบู่ ยาสีฟัน ครีมอาบน้ำ ที่ต้องใช้ในชีวิตประจำวันทุกวันต่างยกขบวนขึ้นราคากันต่อเนื่อง รวมไปถึงข้าวสารที่ในตอนนี้ก็ขึ้นมาจนมีผลกระทบแทบจะขายไม่ออกเลยทีเดียว

และเมื่อสอบถามถึงเรื่องเงินดิจิทัลที่รัฐบาลใหม่ได้ประกาศเป็นนโยบายเอาไว้ตั้งแต่ตอนหาเสียง รวมถึงหลังได้นายกรัฐมนตรีนั้น ก็ยังสงสัยว่านโยบายนี้ประชาชนจะได้ใช้ทุกคนหรือไม่ ส่วนร้านค้าก็ยังไม่มั่นใจเกี่ยวกับเงินดังกล่าว เพราะมองว่าจำนวนเงินที่จะให้ถึง 10,000 บาท แล้วประเทศเรามีกี่ล้านคน ถามว่าได้ทุกคนไหม แล้วร้านค้าใครจะกล้ารับบ้าง

“ถ้าได้มาจริงแล้วรัศมีที่ใช้เงินคือ 4 กิโลเมตรจากที่อยู่ตามบัตรประชาชน แล้วบางพื้นที่ไม่ค่อยมีร้านค้าเท่าไหร่ คิดดูว่าตามบ้านนอกเขาก็อยากที่จะมาใช้ในเมือง ซึ่งในมุมมองของตนนั้น อยากให้เป็นโครงการเหมือนธงฟ้า หรือเพิ่มเงินประชารัฐไปอีกหน่อยก็ได้ จาก 300 บาท เป็น 500 บาทก็ยังดี ทำเป็นแบบโครงการอย่างเก่าดีกว่า”

ขณะที่นางสาวเจี๊ยบ หนึ่งในชาวบ้านที่เข้ามาซื้อของกินของใช้ในร้านมินิมาร์ทดังกล่าว เห็นว่า ตอนนี้ก็ยังรู้สึกไม่มั่นใจกับเงินที่จะได้ ไม่เหมือนกับเงินประชารัฐยุคลุงที่ถึงจะได้น้อย แต่ก็ได้ชัวร์ หากเป็นไปได้ก็อยากให้รัฐบาลชุดใหม่สานต่อโครงการเงินลุงต่อไปจะดีกว่า ถึงประชาชนจะได้น้อยแต่ก็ยังได้เรื่อยๆ ก็น่าจะดีกว่าได้เป็นก้อน ซึ่งก็ยังไม่รู้ว่าจะต้องใช้ยังไงถ้าใช้ยุ่งยากคนบ้านๆ เขาก็จะไม่ค่อยรู้เรื่องกัน ก็ยุ่งยากกันอีก


กำลังโหลดความคิดเห็น