นครสวรรค์ - หวิดสลดยกครัว..เกิดเหตุฝนตกหนัก-ฟ้าผ่า ทำไฟไหม้บ้านทรงไทยวอดทั้งหลังเสียหายหลายล้านบาท โชคดีคนในบ้านไปงานศพไม่มีคนอยู่ ล่าสุดเจ้าหน้าที่ อปท.รุดสำรวจพร้อมเร่งให้ความช่วยเหลือ
วันนี้ (22 ส.ค. 66) เจ้าหน้าที่องค์การบริหารส่วนตำบลหนองกระเจา พร้อมด้วยฝ่ายปกครอง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ร่วมนำสิ่งของเครื่องอุปโภคบริโภคไปมอบเพื่อช่วยเหลือเบื้องต้นแก่ผู้ประสบอัคคีภัย ที่บ้านเลขที่ 245 หมู่ที่ 1 ต.หนองกระเจา อ.ชุมแสง จ.นครสวรรค์
เนื่องจากบ้านหลังดังกล่าวถูกฟ้าผ่า แล้วเกิดมีไฟโหมลุกไหม้จนวอดไปทั้งหลัง เมื่อคืนวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา แต่เคราะห์ดี ที่ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ หรือเสียชีวิต เนื่องจากเจ้าของบ้านได้เดินทางไปยังต่างจังหวัด จึงไม่มีใครพักอาศัยอยู่ขณะเกิดเหตุ
อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบบ้านหลังที่ถูกเพลิงไหม้ดังกล่าว ทราบว่าดั้งเดิมเป็นบ้านไม้ทรงไทยทั้งหลัง ซึ่งมีนางสำราญ ผิวผ่อง อายุ 85 ปี เป็นเจ้าของ หลังถูกฟ้าผ่าจนเกิดไฟไหม้ ทำให้ตัวบ้านทั้งภายนอก-ภายใน รวมถึงข้าวของ เครื่องใช้ไฟฟ้า ถูกไฟเผาได้รับความเสียหายเกือบทั้งหมด และประเมินเบื้องต้นคาดว่าความเสียหายไม่ต่ำกว่า 4 ล้านบาท
จากการสอบถาม น.ส.น้ำผึ้ง ผิวผ่อง ลูกสาวของเจ้าของบ้าน เล่าว่า ขณะเกิดเหตุสมาชิกในครอบครัวไม่มีใครอยู่ในบ้านเลยสักคน เนื่องจากไปร่วมงานฌาปนกิจศพผู้เป็นพ่อที่อยู่ต่างจังหวัด จึงไม่มีใครได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ครั้งนี้ ส่วนที่มีฟ้าผ่าลงกลางบ้านตนแล้วเกิดไฟไหม้ทั้งหลังนั้น ตนคิดว่าบริเวณใต้พื้นดินรอบบ้านตนน่าจะมีแร่ธาตุอะไรบางอย่าง ที่เป็นสื่อนำกระแสไฟ เพราะที่ผ่านมา เวลาที่เกิดฝนตกหนักมักจะมีฟ้าผ่าลงมาในบริเวณใกล้บ้านของตนอยู่เป็นประจำ แต่ก็ไม่คิดไม่ฝันว่าฝนตกหนักรอบนี้จะแรงถึงขนาดมีฟ้าผ่าลงมาบ้านตนจนเกิดไฟไหม้บ้านเสียหายทั้งหลังแบบนี้
ด้านนายอำนาจ พันทา เพื่อนบ้านที่อาศัยอยู่ใกล้เคียง เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเวลาประมาณ 20.00 น.ได้เกิดฝนตกในพื้นที่และมีฟ้าผ่าเสียงดัง แต่ตอนนั้นไม่ทราบว่าเกิดเหตุจุดไหน จนกระทั่งเวลาผ่านไปราว 20 นาที ก็มีแสงไฟวูบวาบส่องกระทบเข้ามาบ้านตน จึงรีบออกไปดู ก็พบว่ากำลังมีไฟลุกไหม้บริเวณจั่วของหลังคาบ้านทรงไทยของนางสำราญ จึงได้รีบวิ่งไปบอกกับญาติๆ ของเจ้าตัวที่อยู่ในละแวกเดียวกันก่อนจะรีบพากันไปช่วยดับไฟ แต่เนื่องจากบ้านหลังนี้เป็นบ้านไม้ทั้งหลังจึงเป็นเชื้อไฟอย่างดี ทำให้เพลิงโหมลุกรุนแรง จนต้องรีบโทร.เรียกให้เจ้าหน้าที่ดับเพลิงมาช่วยกันดับ แต่สุดท้ายก็ยังถูกไฟเผาวอดไปเกือบทั้งหลัง
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ อบต.หนองกระเจาได้มีการนำเต็นท์หลังใหญ่มาตั้งไว้ให้กับครอบครัวของนางสำราญ ได้พักอาศัยอยู่ชั่วคราวไปก่อน พร้อมกับจะเร่งดำเนินการให้ความช่วยเหลือตามระเบียบของทางราชการต่อไป