เชียงใหม่ - โรงแรมดังย่านนิมมานฯ เชียงใหม่ หอบหลักฐานขึ้นสถานีตำรวจแจ้งความเร่งเอาผิดมิจฉาชีพปลอมเพจ ตุ๋นเหยื่อโอนเงินจ่ายค่าจองห้อง แต่กลายเป็นโดนหลอกถึงเวลาเข้าพักไม่ได้ ทำเสียหายทั้งผู้ประกอบการและลูกค้า เผยช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมามีนักท่องเที่ยวโดนไป 6 ราย สูญเงินไปรวมหลายหมื่นบาท ขณะที่แจ้งเรื่องขอความช่วยเหลือไปที่เจ้าของแพลตฟอร์มแล้วยังไม่สามารถทำอะไรได้ เปิดช่องให้เพจปลอมยังลอยนวลหลอกลวงเหยื่อได้เรื่อยๆ เตือนภัยลูกค้าต้องระวังอย่างหนัก
วันนี้(18 ส.ค.66) ที่สถานีตำรวจภูพิงค์ราชนิเวศน์ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ นางสาวพรจิต แซ่ลิ้ม ผู้บริหาร โรงแรมอาร์-วัน เชียงใหม่ และนายเกรียงไกร วงค์แสง ผู้จัดการโรงแรมอาร์-วัน เชียงใหม่ ซึ่งเป็นโรมแรมชื่อดังที่ตั้งอยู่บนย่านถนนนิมมานเหมินทร์ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ ได้นำหลักฐาน เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับมิจฉาชีพออนไลน์ ที่ปลอมแปลงเพจของโรงแรม และหลอกขายห้องพักให้เหยื่อโอนเงินจ่าย ซึ่งมีผู้เสียหายหลายราย โดยก่อนหน้านี้ประมาณ 1 สัปดาห์ ที่เป็นช่วงหยุดยาววันแม่ มีลูกค้าของโรงแรมเดินทางมาขอเช็คอินเข้าพักกับทางโรงแรม โดยแจ้งว่าได้จองห้องพัก และจ่ายเงินค่าที่พักเต็มจำนวนกับทางโรงแรมเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
อย่างไรก็ตามเมื่อทางโรงแรมตรวจสอบข้อมูลการจองห้อง ปรากฏว่าไม่พบว่ามีการจองหรือจ่ายเงินตามที่อ้าง จึงได้ขอดูหลักฐานจากลูกค้า ทำให้ทราบว่าเป็นเพจปลอมที่มิจฉาชีพทำขึ้นเพื่อใช้หลอกลวงให้ลูกค้าติดต่อจองห้องพัก และโอนเงินเข้าบัญชี ที่ไม่ใช่ของทางโรงแรม โดยเพจดังกล่าวที่ปลอมแปลงขึ้นมีการก๊อปปี้ทั้งโลโก้โรงแรม รูปภาพ ข้อความ ราคาห้องพัก และทุกๆ อย่าง จนเหมือนกับเพจของจริงเกือบทั้งหมด แต่มีเพียงเบอร์โทร,ช่องทางการติดต่อ และบัญชีธนาคารในการรับโอนเงินเท่านั้น ที่ไม่ใช่ของทางโรงแรม ซึ่งเป็นการเปิดเพจขึ้นมาเพื่อหลอกเหยื่อที่กำลังมองหาที่พักในเชียงใหม่ และจองห้องล่วงหน้า
โดยได้มีการติดต่อผ่านทางกล่องข้อความของเพจปลอม ทำการเปิดจองให้เลือกห้อง ซึ่งมีราคาตั้งแต่หลักร้อยไปจนถึงหลักหมื่นบาทต่อคืน และเป็นราคาเดียวกันกับของทางโรงแรมด้วย ทำให้เหยื่อตายใจ และโอนเงินเข้าบัญชี พร้อมทั้งมีการทำบุคกิ้งจองห้องพักให้เรียบร้อย ก่อนที่จะให้โอนค่าที่พักเข้าบัญชีของมิจฉาชีพโดยตรง แต่พอเดินทางมาที่โรงแรมในวันที่จองจริงเพื่อขอมาเปิดห้องพักจึงทราบว่าถูกหลอก
ทั้งนี้จากกรณีที่เกิดขึ้นดังกล่าวนั้น ทางโรงแรมรู้สึกเห็นใจลูกค้าที่ถูกหลอกมา จึงช่วยเหลือด้วยการยอมเปิดห้องให้เข้าพักในราคาพิเศษที่ต่ำกว่าปกติเพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อน ซึ่งในช่วง 1 สัปดาห์ที่ผ่านมามีผู้เสียหายที่ถูกหลอกแล้ว 6 ราย สูญเสียเงินไปหลายหมื่นบาท โดยเหยื่อเริ่มทยอยแจ้งความแล้ว ขณะที่ในวันนี้ทางโรงแรมจึงได้รวมรวมพยานหลักฐานเข้าแจ้งความกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ตรวจสอบ และดำเนินคดีมิจฉาชีพรายนี้ ซึ่งเบื้องต้นทางตำรวจได้รับแจ้งความไว้ พร้อมเร่งตรวจสอบหลักฐานว่าอาจจะเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ และข้อหาฉ้อโกง เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจไซเบอร์ดำเนินการต่อไป
ขณะเดียวกันผู้บริหารโรงแรมแห่งนี้ เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาได้พยายามติดต่อกับทางเจ้าของแพลตฟอร์มที่ให้บริการเพจออนไลน์แล้วเพื่อให้ช่วยปิดเพจดังกล่าว แต่ได้รับคำตอบว่าไม่สามารถปิดเพจดังกล่าวลงได้ทันที ต้องให้ทางผู้เสียหายแจ้งรีพอร์ตผ่านทางระบบเองจนกว่าจะมีจำนวนรีพอร์ตที่ทำให้เกิดการตรวจสอบของแพลตฟอร์มตามขั้นตอนเท่านั้น จึงทำให้ทุกวันนี้เพจปลอมยังคงเปิดดำเนินการหลอกเหยื่อไปควบคู่กับเพจจริงของทางโรงแรม ซึ่งเวลานี้ทำได้เพียงให้พนักงานคอยส่องเพจปลอม และเข้าไปแจ้งกับลูกค้าว่าเพจนั้นเป็นเพจปลอม
นอกจากนี้ทางโรงแรมได้สอบถามกับเครือข่ายผู้ประกอบการโรมแรมและที่พักหลายแห่ง พบว่าถูกมิจฉาชีพปลอมเพจแบบนี้เหมือนกันหลายแห่ง จึงต้องออกมาดำเนินคดีเพื่อให้เป็นตัวอย่าง และเพื่อขอให้สื่อเป็นตัวกลางช่วยประชาสัมพันธ์ว่าให้ตรวจสอบให้แน่ใจก่อนที่จะดำเนินการจองหรือโอนจ่ายเงินว่าเป็นผู้ประกอบการจริงๆ หรือว่าเป็นมิจฉาชีพ ซึ่งส่วนใหญ่หากต้องทำธุรกรรมทางการเงินอย่างรับเงินโอนปกติผู้ประกอบการก็จะใช้บัญชีของบริษัทที่ตรวจสอบได้ดำเนินธุรกรรมทางการเงิน จึงอยากให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดี ก่อนที่จะมีผู้เสียหายเพิ่มมมากขึ้นกว่านี้อีก.
