ไรเดอร์หนุ่มวิ่งราวทองหัวหินเข้ามอบตัวแล้ว

ประจวบคีรีขันธ์ - ไรเดอร์หนุ่มก่อเหตุวิ่งราวทองคำ 8 บาท ที่ร้านทองกลางเมืองหัวหิน หลายวันก่อน เดินทางเข้ามอบตัวต่อตำรวจ สภ.หัวหิน หลังหนีไปกบดานที่กรุงเทพฯ สารภาพต้องการหาเงินมาใช้หนี้ ส่วนของกลางอ้างว่า ทำตกหายระหว่างทาง 2 เส้น ที่เหลือเอาไปขายใช้จ่ายระหว่างหลบหนี

จากเหตุการณ์คนร้ายเป็นชายสวมชุดไรเดอร์ส่งอาหารเจ้าดัง รูปร่างผอม สูงราว 170 ซม. สวมหมวกกันน็อกคลุมปิดหน้า ก่อเหตุวิ่งราวสร้อยคอทองคำหนักเส้นละ 2 บาท รวม 4 เส้น คิดเป็นมูลค่าเกือบ 3 แสนบาท จากห้างทองแห่งหนึ่ง บนถนนชมสินธุ์ เขตเทศบาลเมืองหัวหิน จ.ประจวบฯ เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม ที่ผ่านมา โดยผู้ก่อเหตุขี่รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้าคลิก สีดำส้ม ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนหลบหนีไป หลังเกิดเหตุตำรวจได้รวบรวมพยานหลักฐานจนทราบตัวคนร้ายรายนี้คือ นายนรภัทร หรือแป๊ะ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 25 ปี จึงได้ขออนุมัติหมายจับศาลจังหวัดหัวหินที่ จ.111/2566 ลงวันที่ 2 ส.ค.2566 พร้อมเร่งติดตามจับกุมตัวนั้น

ล่าสุด วันนี้ (15 ส.ค.) นายนรภัทร หรือแป๊ะ ได้เดินทางเข้ามอบตัวต่อ พ.ต.อ.หงส์พรหม วิศิษฐ์ชนะชัย ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรหัวหิน พร้อมรับสารภาพว่าเป็นผู้ก่อเหตุวิ่งราวทองจากร้านดังกล่าวจริง โดยมีครอบครัวเดินทางมาด้วย

นายนรภัทร หรือแป๊ะ รับสารภาพว่า ตนเองประกอบอาชีพไรเดอร์ส่งอาหารมาประมาณ 1 ปี แต่ระยะหลังประสบปัญหาด้านการเงิน จากธุรกิจพระเครื่อง และเป็นหนี้เพื่อนประมาณ 5 หมื่นบาท เมือถูกเร่งรัดทวงหนี้บ่อยๆ เข้าเกิดความเครียด จึงคิดสั้นก่อเหตุวิ่งราวทองคำจากร้านทองโดยทำทีเข้าไปขอดูทองคำเส้นละ 2 บาท จำนวน 4 เส้น วิ่งหนีขึ้นรถจักรยานยนต์ที่จอดติดเครื่องอยู่ ระหว่างหนีทำทองคำตกหายไป 2 เส้น หรือ 4 บาท จากนั้นนำทองคำที่เหลือ 4 บาทไปขาย และหนีไปกบดานที่กรุงเทพฯ และใช้เงินที่ได้จากการขายทองไปจนหมด ประกอบกับตนเองเครียด ถูกตำรวจกดดันอย่างหนักจึงตัดสินใจเข้ามอบตัว

พ.ต.อ.หงส์พรหม วิศิษฐ์ชนะชัย ผกก.สภ.หัวหิน กล่าวว่า ผู้ก่อเหตุเป็นคนทำมาหากินหาเลี้ยงครอบครัวมาโดยตลอด แต่เนื่องจากมีความกดดันด้านภาระหนี้สิน และถูกเร่งรัดให้ใช้หนี้ จึงเกิดความเครียด และใช้อารมณ์ชั่ววูบก่อเหตุ ภายหลังเกิดเหตุทางตำรวจได้เร่งติดตัวคนร้ายมาดำเนินคดี มีการประสานขอข้อมูลจากบริษัทไรเดอร์ทันที จนสามารถออกหมายจับและพยายามติดตามตัว แต่ผู้ก่อเหตุได้หลบหนีเข้ากรุงเทพฯ ส่วนทองคำ 2 เส้น ที่ผู้ก่อเหตุอ้างว่าทำตกหายนั้น ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อ คงต้องตรวจสอบรายละเอียดอีกครั้ง อีกทั้งทางร้านทองยืนยันตัวบุคคลตรงกัน

อย่างไรก็ตาม ภายหลังเกิดเหตุดังกล่าวได้มีการประชุมผู้ประกอบการร้านทอง เพื่อเน้นย้ำถึงมาตรการความปลอดภัยต่างๆ ทั้งกล้องวงจรปิดที่ควรติดตั้งทั้งในร้านและนอกร้าน ระบบล็อกประตู หรือการสังเกตพฤติกรรมของลูกค้าที่เข้ามาในร้าน ต้องไม่สวมหมวกกันน็อก หรือจอดรถติดเครื่องยนต์รออยู่หน้าร้าน รวมทั้งการทำลูกกรงเหล็กเพื่อป้องกันเหตุฉุกเฉิน และระบบเตือนภัยและแจ้งเหตุมา สภ.หัวหิน ไม่ให้คนร้ายหลบหนีไปอย่างง่ายดาย