xs
xsm
sm
md
lg

ผู้เฒ่าโคราชเห็นด้วยเกณฑ์ใหม่เบี้ยคนชรา เหตุอยากให้คนยากจนแท้จริงได้รับ แต่กังวลส่งผลรายเก่าถูกตัดสิทธิ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - ผู้สูงอายุโคราชวิพากษ์รัฐแก้คุณสมบัติผู้มีสิทธิได้รับเบี้ยผู้สูงอายุใหม่ “ต้องเป็นผู้ที่ไม่มีรายได้หรือมีรายได้ไม่เพียงพอแก่การยังชีพ” ชี้เห็นด้วยหลักเกณฑ์ใหม่เบี้ยคนชรา เพราะอยากให้คนมีรายได้น้อยยากจนจริงๆ ได้รับ แต่กังวลหวั่นส่งผลกระทบรายเก่าหากไม่เข้าเกณฑ์ใหม่จะถูกตัดสิทธิ พร้อมวอนรัฐเพิ่มเงิน

วันนี้ (15 ส.ค.) จากกรณีราชกิจจานุเบกษาได้เผยแพร่ระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยหลักเกณฑ์การจ่ายเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2566 ซึ่งมีการปรับแก้คุณสมบัติของผู้มีสิทธิได้รับเบี้ยผู้สูงอายุ “ต้องเป็นผู้ที่ไม่มีรายได้ หรือมีรายได้ไม่เพียงพอแก่การยังชีพ ตามที่คณะกรรมการผู้สูงอายุแห่งชาติ ตามกฎหมายว่าด้วยผู้สูงอายุกำหนด” โดยวานนี้ (14 สิงหาคม 2566) พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้ออกชี้แจงว่า เรื่องนี้ยังไม่ได้ข้อยุติ รอทางคณะกรรมการผู้สูงอายุแห่งชาติกำหนดเกณฑ์การจ่าย ในขณะที่ น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ระบุว่า ประเทศไทยวันนี้เข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ ซึ่งเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง งบประมาณที่เคยตั้งไว้ 50,000 ล้านต่อปี เพิ่มเป็น 80,000 ล้านต่อปี และแตะ 90,000 ล้านแล้วในปีงบประมาณ 2567 หากลดการจ่ายเบี้ยฯ แก่ผู้สูงอายุเฉพาะกลุ่มที่มีรายได้สูงหรือผู้สูงอายุที่ร่ำรวย เป็นการใช้นโยบายการคลังที่พุ่งเป้า เพื่อช่วยเหลือไปยังกลุ่มคนที่มีความจำเป็นและเดือดร้อนกว่า ทั้งยังเป็นการสร้างความยั่งยืนทางการคลังระยะยาว ไม่ใช่การลักไก่ เพราะไม่มีความจำเป็นที่รัฐบาลรักษาการจะทำเช่นนั้น


จากกรณีดังกล่าวได้สร้างกระแสวิพากษ์วิจารณ์ขึ้นในสังคมเป็นอย่างมาก ล่าสุด วันนี้ (15 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปยังศาลาอเนกประสงค์ชุมชนพาณิชย์เจริญ ต.หนองไผ่ล้อม อ.เมือง จ.นครราชสีมา มีกลุ่มผู้สูงอายุภายในชุมชนได้นั่งพูดคุยกันเกี่ยวกับเรื่องการปรับแก้ไขเกณฑ์ในการรับเบี้ยผู้สูงอายุดังกล่าว ซึ่งส่วนใหญ่เห็นด้วยกับทางรัฐบาลในการปรับกฎเกณฑ์ในครั้งนี้

นายสนั่น นนทะมา อายุ 65 ปี ประธานชุมชนพาณิชย์เจริญ กล่าวว่า ตนเห็นด้วยกับการปรับแก้เกณฑ์ในการรับเบี้ยผู้สูงอายุเพราะอยากให้คนที่มีรายได้น้อยและฐานะยากจนได้รับเบี้ยผู้สูงอายุจริงๆ เพราะเงินดังกล่าวแม้จะเป็นจำนวนไม่มากแต่ถือว่าช่วยในการดำรงชีพในแต่ละวัน อย่างไรก็ตามตนก็ยังคงกังวลถึงเกณฑ์ใหม่ที่ยังไม่ได้มีการประกาศทาง พม. ซึ่งไม่รู้ว่าเกณฑ์ใหม่นี้จะเริ่มนับหนึ่งจากผู้สูงอายุรายใหม่หรือไม่ หรือเกณฑ์นี้จะมีผลไปถึงผู้สูงอายุรายเก่าที่ได้รับอยู่แล้วหรือไม่ เพราะถ้ารวมถึงรายเก่าที่เคยได้รับอยู่แล้วแต่เกณฑ์รายได้เกินกว่าที่ทางระเบียบของทาง พม.กำหนดก็กลัวการเรียกเงินคืน


จึงอยากฝากไปยังรัฐบาลในการแก้ไขกฎเกณฑ์ในครั้งนี้คืออยากให้เริ่มนับหนึ่งจากผู้สูงอายุรายใหม่ไม่อยากให้ไปยุ่งกับผู้สูงอายุรายเก่า และถ้าเป็นไปได้อยากให้มีการจ่ายแบบเป็นก้อนแบบถ้วนหน้า ไม่จ่ายแบบขั้นบันได รวมทั้งอยากให้รัฐเพิ่มเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุด้วย

ขณะที่ นางพรรณี กาฬสินธุ์ อายุ 74 ปี กล่าวว่า ตนรู้สึกกังวล หากเกณฑ์ใหม่ออกมาแล้วตัวเองโดนตัดสิทธิเบี้ยผู้สูงอายุ เนื่องจากตนประกอบอาชีพค้าขายและใช้เงินส่วนหนึ่งจากเบี้ยผู้สูงอายุในการดำรงชีวิตโดยการนำไปซื้อของมาขายภายในร้าน ซึ่งถ้าหากโดนตัดจริงๆ ตนก็คงจะเสียใจมาก



นายสนั่น  นนทะมา อายุ 65 ปี ประธานชุมชนพาณิชย์เจริญ อ.เมือง จ.นครราชสีมา

นางพรรณี  กาฬสินธุ์ อายุ 74 ปี


กำลังโหลดความคิดเห็น