xs
xsm
sm
md
lg

ซ้ำซาก! แม่ร้องสื่อลูกขี่ จยย.โดนสายสื่อสารบาดคอหลอดลมหวิดขาดคาถนนเก้าเลี้ยว แจ้งความแล้วยังไร้เยียวยา

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



นครสวรรค์ - การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคฯ เริ่มก้นร้อน นัดประชุมด่วนพรุ่งนี้ (15 ส.ค.)..หลังแม่เด็กเก้าเลี้ยว วัย 14 ขวบ ร้องสื่อฯ ลูกชายขี่ จยย.พาหลานซ้อนท้ายไปจ่ายค่าเช่าบ้าน ขากลับโดนสายสื่อสารเกี่ยวคอบาดลึกเกือบถึงหลอดลม รถล้มชนต้นไม้ซ้ำ บาดเจ็บสาหัส เย็บรวมกว่า 40 เข็ม แจ้งความแล้วเรื่องยังเงียบ ไร้การเยียวยา


น.ส.น้ำใจ แซ่ลี อายุ 35 ปี ที่บ้านเลขที่ 148/4 หมู่ 2 ต.มหาโพธิ อ.เก้าเลี้ยว จ.นครสวรรค์ ได้ร้องเรียนผ่านสื่อมวลชนว่า เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 29 กรกฎาคม 2566 ที่ผ่านมาได้วานให้ลูกชาย คือ ด.ช.ประภินวิทย์ แซ่ลี อายุ 14 ปี ขับขี่รถจักรยานยนต์ไปหาเจ้าของบ้านที่ตนพักอาศัยอยู่เพื่อจ่ายค่าเช่า

ลูกชายจึงได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ โดยมีหลานชาย คือ ด.ช.อภินันต์ แซ่ลี อายุ 8 ขวบ ซ้อนท้ายรถไปด้วย เพื่อไปจ่ายค่าเช่าให้เจ้าของบ้านที่อยู่ห่างกันไปประมาณ 3 กิโลเมตร แต่ขากลับปรากฏว่าลูกชายและหลานชายประสบอุบัติเหตุรถไปชนต้นไม้ริมทางจนล้มคว่ำได้รับบาดเจ็บสาหัส เนื่องจากในระหว่างขี่มาคอของลูกชายได้ไปเกี่ยวกับสายสื่อสารที่ห้อยลงมากลางถนน จนทำให้ได้รับบาดเจ็บกันทั้งคู่

น.ส.น้ำใจเล่าว่า ตอนแรกคิดว่าแค่ประสบอุบัติเหตุขี่รถคว่ำเท่านั้น แต่เมื่อไปถึงจุดที่เกิดเหตุก็ต้องตกใจสุดขีด เพราะเลือดกองใหญ่บริเวณใต้ต้นไม้ริมทางถนน ส่วนลูกกับหลาน ทางเจ้าหน้าที่กู้ภัยได้มาช่วยเหลือพาส่งโรงพยาบาลเก้าเลี้ยวก่อนหน้าที่ตนจะไปถึง จึงได้สอบถามชาวบ้านที่มาดูเหตุการณ์ พบต้นเหตุของการเกิดอุบัติเหตุมาจากสายสื่อสาร

โดยขณะที่ลูกชายขี่มอเตอร์ไซค์และหลานชายซ้อนกันตามเส้นทางเดิมเพื่อจะกลับบ้าน จู่ๆ คอของลูกชายก็ได้ไปเกี่ยวกับสายสื่อสารที่ห้อยลงมาจากเสาไฟฟ้าริมทางอย่างแรง จนรถเสียหลักไปชนต้นไม้ที่อยู่ห่างจากจุดถูกสายเกี่ยวไปประมาณ 10 เมตร อีกทั้งชาวบ้านยังเล่าด้วยว่า..ทั้งคู่ได้รับบาดเจ็บหนัก โดยเฉพาะลูกชายถือว่าสาหัส เนื่องจากถูกสายไฟบาดคออย่างรุนแรงจนเกือบเห็นหลอดลม เลือดไหลทะลักไม่หยุด

“ตอนนั้นกลุ่มชาวบ้านพาฉันไปดูจุดสายสื่อสารที่ห้อยลงมาจากเสาไฟ พร้อมกับตัดสายไว้ให้บางส่วนเพื่อให้เก็บไว้เป็นหลักฐาน จากนั้นฉันก็รีบให้สามีพาไปหาลูกและหลานชายที่โรงพยาบาล แต่ปรากฏว่าอาการลูกชายสาหัสหนัก ถูกนำตัวส่งไปรักษาบาดแผลต่อยังโรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ อ.เมืองนครสวรรค์แล้ว และเมื่อตามไปก็พบหมอเดินเข้ามาบอกว่า โชคดีที่ถูกสายบาดคอไม่ถึงหลอดลม ไม่เช่นนั้นคงจะมีอาการหนักกว่านี้แน่ ซึ่งสุดท้ายหมอต้องเย็บแผลที่คอให้ลูกชายฉันไปถึง 32 เข็ม และต้องเย็บที่นิ้วมือด้วยอีก 10 กว่าเข็มเนื่องจากเอ็นนิ้วขาด ส่วนหลานชายบาดเจ็บจากการถูกสายไฟเกี่ยวเป็นรอยไหม้ และล้มหน้าไปกระแทกพื้นจนปากแตก”

น.ส.น้ำใจเล่าต่อไปว่า หลังเกิดเหตุตนและสามีได้ไปแจ้งความเอาไว้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เก้าเลี้ยว ซึ่งก็ได้มีการประสานให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคในท้องที่ให้ตรวจสอบสายสื่อสารที่ทำให้ลูกเกิดอุบัติเหตุว่าเป็นสายอะไร ของหน่วยงานใดด้วย โดยทางนั้นรับปากว่าจะเร่งดำเนินการตรวจสอบ และรีบแจ้งผลให้ทราบ

จากนั้นตนก็ไปอยู่ดูแลลูกชายที่ต้องนอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลมานานถึง 5 วัน หมดค่าใช้จ่ายไปแล้วในเบื้องต้นมากกว่า 13,000 บาท แต่จนถึงขณะนี้ เวลาผ่านมานานถึง 16 วันแล้วก็ยังไม่มีความคืบหน้าในการตรวจสอบใดๆ จึงทำให้ตนยังไม่สามารถไปร้องเอาผิดเจ้าของสายสื่อสารที่เป็นต้นเหตุได้ จึงต้องมาร้องผ่านสื่อเพื่อให้ช่วยเป็นกระบอกเสียงกระตุ้นหน่วยงานที่ตนไปร้องให้เร่งตรวจสอบ และแจ้งผลให้ทราบโดยด่วน เพราะตอนนี้ครอบครัวแทบจะไม่มีเงินแล้ว เนื่องจากหมดกับค่ารักษาไปเยอะ ประกอบกับตนและสามีขายไก่ย่างยังชีพ รายได้ก็มีไม่มากเท่าไหร่

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ลูกชายของ น.ส.น้ำใจ ยังคงต้องหยุดเรียนเพื่อพักรักษาตัวอยู่ที่บ้านอีกสักระยะ เนื่องจากยังมีอาการข้างเคียง ปวดระบมร้าวไปถึงช่องปาก ทำให้กินข้าวลำบาก

อย่างไรก็ตาม หลังจาก น.ส.น้ำใจมาร้องเรียนต่อผู้สื่อข่าว ปรากฏว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการตรวจสอบเกี่ยวกับเรื่องนี้ทันที โดยเฉพาะการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค จ.นครสวรรค์ ได้มีการทำหนังสือเชิญไปยังหลายหน่วยงานที่ร่วมใช้เสาของการไฟฟ้าฯ ให้มาร่วมประชุมในช่วงเช้าพรุ่งนี้ (15 ส.ค. 66) เพื่อเตรียมหารือแนวทางการเยียวยาค่าสินไหมทดแทนให้แก่ผู้เสียหายโดยเร็ว


กำลังโหลดความคิดเห็น