นครพนม - น้ำท่วมนครพนมยังไม่คลี่คลาย เผยชาวบ้านหลายอำเภอถูกน้ำท่วมขังนานกว่า 12 วันแล้ว ล่าสุด มทบ.210 ส่งทีมแพทย์ทหารเข้าช่วยรักษาชาวบ้านที่เริ่มป่วยจากโรคที่มากับน้ำ ทั้งส่งกำลังพลเข้าซ่อมแซมสาธารณูปโภคที่เสียหายจากน้ำท่วม
พลตรี สถาพร บุญชู ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 210 เปิดเผยว่า สถานการณ์ปริมาณน้ำฝนในพื้นที่จังหวัดนครพนมช่วงนี้ แม้จะมีปริมาณลดลงเหลือตกในพื้นที่ประมาณ 40-60% โดยทางสถานีอุตุนิยมวิทยานครพนมได้คาดการณ์ว่าจังหวัดนครพนมจะมีฝนตกหนักอีกครั้งในช่วงประมาณวันที่ 11-14 สิงหาคม 2566 โดยเมื่อเวลา 06.00 น. วันนี้ (8 ส.ค.) ปริมาณน้ำในแม่น้ำโขงวัดได้ 9.46 เมตร เพิ่มขึ้น 14 เซนติเมตร ส่วนพื้นที่ที่มีฝนตกลงมามากสุดอยู่ที่อำเภอบ้านแพง เฉลี่ย 17 มิลลิเมตร รองลงมาเป็นอำเภอนาทม 11.5 มิลิเมตร
ส่วนผู้ประสบภัยในพื้นที่ทั้ง 11 อำเภอที่มีประกาศเขตพื้นที่ประสบอุทกภัย ยังคงได้รับผลกระทบจากน้ำที่ท่วมขังอยู่ ด้วยปริมาณน้ำสะสมมาตั้งแต่วันที่ 28 กรกฎาคมเป็นต้นมา ที่ผ่านมาจังหวัดนครพนมได้บูรณาการความร่วมมือภาคส่วนต่างๆ ช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้ประชาชนมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งการเตือนภัย ขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูง บริหารจัดการน้ำในภาพรวมของจังหวัด เยียวยาช่วยเหลือด้านต่างๆ รวมถึงนำเครื่องอุปโภคบริโภคแจกจ่าย แต่ด้วยระยะเวลาผู้ประสบภัยต้องอยู่กับน้ำนานถึง 12 วัน เริ่มเห็นว่ามีอาการเจ็บป่วย หลายคนเกิดความเครียดจากพืชผลการเกษตรเสียหาย
พลตรี สถาพรกล่าวต่อว่า วันนี้ได้ส่งทีมแพทย์ทหารจากโรงพยาบาลค่ายพระยอดเมืองขวาง เข้าไปเสริมปฏิบัติงานที่กำลังพลศูนย์บรรเทาสาธารณภัย มณฑลทหารบกที่ 210 กำลังช่วยเหลืออยู่ตั้งแต่วันเกิดเหตุ เพื่อเสริมศักยภาพร่วมกันให้การดูแลรักษา ให้คำแนะนำ ให้ทุกคนห่างไกลจากโรคมากับน้ำท่วม ทั้งโรคผิวผนัง โรคเท้าเปื่อย โรคท้องร่วง โรคฉี่หนู โรคตาแดง ส่วนความเครียดได้ส่งทีมทหารมวลชนสัมพันธ์ลงพื้นที่พูดคุยคลายความกังวล ทุกภาคส่วนพร้อมอยู่เคียงข้างประชาชนและให้การช่วยเหลือตลอด 24 ชั่วโมง
ขณะเดียวกัน วันนี้ชุดกำลังพลพร้อมยุทโธปกรณ์ของศูนย์บรรเทาสาธารณภัย มณฑลทหารบกที่ 210 ได้ร่วมกับองค์การบริหารส่วนตำบลพุ่มแก อำเภอนาแก และผู้นำชุมชนในพื้นที่เข้าซ่อมแซมถนนที่ชำรุดเนื่องจากน้ำกัดเซาะ ถนนทรุดตัวเป็นหลุมบ่อ โดยได้ร่วมกันนำกระสอบทรายวางเป็นพนังกั้นทางไหลของน้ำตามจุดต่างๆ เพื่อปรับเปลี่ยนทิศการไหลของน้ำพร้อมซ่อมถนนเสียหายให้ประชาชนสัญจรได้ บรรเทาความเดือดร้อนเบื้องต้น