ศูนย์ข่าวศรีราชา - เจ้าของร้านอาหารปลายแหลมบาลีฮาย พัทยาใต้ เปิดศึกเมืองพัทยา หลังนำเจ้าหน้าที่เตรียมรื้อถอนอาคารปลูกสร้างไม่ได้รับอนุญาตตาม พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร ยันขอสู้ในชั้นศาลอ้างบุกรุกพื้นที่ ด้านเมืองพัทยา ไม่รอช้าแจ้งความดำเนินคดีฐานขัดขืนคำสั่งเจ้าพนักงานเช่นกัน
จากกรณีที่มีการร้องเรียนเรื่องผู้ประกอบการบุกรุกพื้นที่สาธารณะปลายแหลมบาลีฮาย พัทยาใต้ จ.ชลบุรี โดยพบว่ามีการก่อสร้างอาคารและร้านอาหารโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งเมืองพัทยาได้ออกคำสั่งตาม พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร พ.ศ.2522 ให้ระงับ ดัดแปลง รื้อถอน หรือเคลื่อนย้ายอาคารตามมาตรา 40 (2) แบบ ค.3 ค.4 และ ค.5 ตั้งแต่วันที่ 7 ก.ค.2565 โดยให้ยื่นคำขออนุญาตก่อสร้างดัดแปลงอาคารภายใน 45 วันนับแต่วันได้รับคำสั่ง
กระทั่งครบกำหนดเวลาจึงให้ทำการรื้อถอนอาคารตามมาตรา 42 วรรค 1 แบบ ค.6 ลงวันที่ 22 กันายน 2565 ภายใน 30 วัน นับแต่วันได้รับคำสั่ง ซึ่งถือว่าเลยกำหนดเวลาแล้วนั้น
ล่าสุด วานนี้ (4 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสุริยา แก้วเขียว ผู้อำนวยการส่วนควบคุมอาคารเมืองพัทยา พร้อมด้วย นายคริส เชิดสุริยา หัวหน้าฝ่ายควบคุมอาคาร และกำลังเจ้าหน้าที่ได้นำอุปกรณ์เข้าเตรียมทำการรื้อถอนอาคาร ค.ส.ล.และโครงสร้างเหล็ก 1 ชั้น ขนาด 21.85 คูณ 3.300 เมตร จำนวน 1 หลังบริเวณถนนอ้อมแหลม ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี แล้ว
โดยระบุว่าอาคารดังกล่าวมีการใช้ประกอบกิจการเป็นร้านอาหารโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานท้องถิ่น
และยังระบุอีกว่า เมืองพัทยาได้อาศัยอำนาจตาม พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร เพื่อเข้าดำเนินการรื้อถอนอาคารดังกล่าวหลังปิดประกาศนี้ไปแล้วไม่น้อยกว่า 15 วัน และเจ้าของอาคารจะต้องเป็นผู้ชดใช้ค่าเสียหายในการรื้อถอนเป็นจำนวนเงิน 168,900 บาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การนำกำลังเจ้าหน้าที่เมืองพัทยาลงพื้นที่เพื่อบังคับใช้กฎหมายในครั้งนี้ ปรากฏว่าเจ้าของอาคารได้ปฏิเสธที่จะให้เมืองพัทยาทำการรื้อถอนอาคาร แต่ยินยอมให้เมืองพัทยาดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายด้วยการแจ้งความดำเนินคดีฐานขัดขืนคำสั่งเจ้าพนักงานซึ่งจะต้องมีการยื่นเรื่องต่อศาลในการขอออกหมายควคุมตัว
ทั้งนี้ เจ้าของอาคารยังได้แจ้งความประสงค์ว่าจะแจ้งความดำเนินคดีเมืองพัทยาเช่นกัน ในเรื่องของการนำกำลังเข้าบุกรุกพื้นที่ส่วนตัวโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งถือเป็นการกระทำผิดตามกฎหมายอาญา โดยทั้ง 2 กรณีจะมีการฟ้องร้องว่าความกันในส่วนของศาลยุติธรรมเพื่อขอความชอบธรรมต่อไป